Skip links
View
Drag

อุตสาหกรรมบริการสาธารณะ (Public Services) ในยุค AI

อุตสาหกรรมบริการสาธารณะคืออะไร? 

การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในอุตสาหกรรมที่ให้บริการสาธารณะ เช่น ระบบสาธารณสุข การศึกษา การขนส่ง หรือการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพของบริการ นอกจากนี้การใช้งาน AI ในระดับโลกยังมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ สนับสนุนการวิจัย และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศอย่างยั่งยืน 

บทบาทของ AI ในการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการสาธารณะ 

AI มีบทบาทสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพและความแม่นยำของการทำงานในอุตสาหกรรมบริการสาธารณะ โดยช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อการตัดสินใจเชิงนโยบาย การวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดสรรทรัพยากรด้วยเทคโนโลยี Machine Learning ที่สามารถคาดการณ์แนวโน้มและผลกระทบในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

ในด้านความปลอดภัย AI ช่วยเฝ้าระวังและตรวจจับภัยคุกคาม เช่น การก่อการร้ายและอาชญากรรมไซเบอร์ผ่านเทคโนโลยี Computer Vision และ Data Analytics รวมถึงระบบเฝ้าระวังอัตโนมัติที่ช่วยแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญ และ AI สามารถเพิ่มความสะดวกในการให้บริการประชาชน เช่น การตอบคำถามผ่าน Chatbots การจัดการคำร้อง ระบบอัตโนมัติที่ช่วยลดเวลาและข้อผิดพลาดในงานที่ซับซ้อน เช่น การยื่นภาษี ทั้งยังส่งเสริมความโปร่งใสในระบบการเงินและภาษี เป็นต้น ในมิติของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ AI ช่วยบริหารจัดการทรัพยากร เช่น การจราจรและการใช้พลังงานด้วยเทคโนโลยี IoT Integration และการคาดการณ์ปัญหาแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ AI ยังช่วยวิเคราะห์ความคิดเห็นของประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ปรับปรุงการสื่อสารของภาครัฐ สนับสนุนการเรียนรู้เฉพาะบุคคลในระบบการศึกษา และส่งเสริมการพัฒนานโยบายยั่งยืน เช่น การจัดการขยะและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น AI จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ 

การประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมบริการสาธารณะของประเทศไทย 

ประเทศไทยเน้นการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดขั้นตอนที่ซับซ้อนในการดำเนินงาน โดยสามารถยกตัวอย่างดังต่อไปนี้ 

1. กรมสรรพากรได้มีการพัฒนา AI มาวิเคราะห์ในการยื่นภาษีของประชาชน ซึ่ง AI จะเข้าไป ตรวจจับและประเมินรายได้จากการค้าขายผ่านระบบ โดยระบบจะทำการสุ่มตรวจตามหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Facebook ที่มีการโพสแสดงเงินโอนเข้าหรือการไลฟ์สดขายของ เป็นต้น เพื่อตรวจสอบว่ารายได้ของบุคคลเหล่านั้นเสียภาษีถูกต้องแล้วหรือไม่ นอกจากนั้น กรมสรรพากรยังใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Web Scraping หรือ เทคนิคการดึงข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ตามรูปแบบที่กำหนดเพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ตามจุดประสงค์ เช่น ข้อมูลราคาและประเภทสินค้าที่ค้าขายผ่านเว็บไซต์ e–commerce ซึ่งจะทำให้กรมสรรพากรได้ข้อมูลของผู้เสียภาษีในเชิงลึกและช่วยป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีได้   

2. โรงพยาบาลศิริราช พัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยทีมแพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำพร้อมกับประเมินคัดกรอง ผู้ป่วย เป็นการลดขั้นตอนการทำงานของแพทย์ และร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและ บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ประเทศไทย (จำกัด) ส่งมอบโซลูซัน ผู้ป่วย AI CT Chest COVID-19 เพื่อประมวลผล และวิเคราะห์รายงานผลผู้ติดเชื้อ COVID-19 นอกจากนั้นยังมีโครงการความร่วมมือกับภาควิชารังสีวิทยาในการพัฒนา AI แปลผลและวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เช่น วัดปริมาตรอวัยวะและเนื้องอก และ Imaging Study Recommender รวมทั้ง SiCAR Ai Lab   

3. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำ AI Watson จาก IBM ในการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคมะเร็ง โดยได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อการวางแผนรักษามะเร็ง (Watson for Oncology) ซึ่งเป็น Cognitive Computing บนระบบ Cloud มาใช้ และเพื่อให้แพทย์ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยในการ วินิจฉัยและเสนอทางเลือกการรักษาผู้ป่วยมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสนับสนุนบริการทางการแพทย์ และส่งเสริมองค์ความรู้ในด้านการศึกษาวิจัย ซึ่ง AI Watson for Oncology จะเป็นส่วนสำคัญในการวินิจฉัย และรักษาโรคในคนไข้ที่ป่วยโรคมะเร็ง และสามารถวางแผนในการรักษาโรคมะเร็งให้กับทีมแพทย์ รวมทั้งสามารถระบุแนวทางการรักษาที่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน  

ความท้าทายในการใช้ AI ในอุตสาหกรรมบริการสาธารณะ 

การใช้ประโยชน์จากข้อมูล (Effective Use of Data) เป็นหัวข้อที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับภาครัฐ เนื่องจากหน่วยงานต่าง ๆ มีข้อมูลจำนวนมากที่กระจายตัวอยู่ในหลายแหล่งและมีความหลากหลายในรูปแบบของข้อมูล ความซับซ้อนนี้ทำให้การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเรื่องที่ท้าทาย นอกจากนี้ การหวงแหนข้อมูลระหว่างหน่วยงานยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการบูรณาการข้อมูลเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุด  

อีกประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญคือการพัฒนาบุคลากร ปัจจุบันบุคลากรส่วนใหญ่ยังขาดทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานเทคโนโลยี AI รวมถึงการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แม้ว่าจะมีความพยายามในการอบรมหรือพัฒนาทักษะ แต่การดำเนินการดังกล่าวยังไม่เป็นระบบและไม่ครอบคลุมเพียงพอ ทำให้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านนี้ไม่เท่าทันความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

ในขณะเดียวกันจริยธรรมและความโปร่งใสก็เป็นหัวข้อที่ต้องใส่ใจ เนื่องจากการใช้งาน AI ในงานภาครัฐมีความเสี่ยงในด้านอคติของข้อมูลและการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชน อีกทั้งยังขาดกรอบจริยธรรมที่ชัดเจนในการกำกับดูแลการใช้ AI ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจจากสาธารณชน การสร้างกรอบจริยธรรมที่ชัดเจนและโปร่งใสจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืนในระยะยาว  

นอกจากนี้ ความยั่งยืนทางการเงินยังเป็นความท้าทายสำคัญของภาครัฐ การจัดซื้อเทคโนโลยีและการพัฒนา AI ต้องใช้งบประมาณสูง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญโดยเฉพาะสำหรับหน่วยงานที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ในสถานการณ์เช่นนี้ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นแนวทางที่มีศักยภาพในการลดภาระด้านต้นทุน และส่งเสริมการพัฒนาระบบ AI ให้ตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อนาคตของ AI ในอุตสาหกรรมบริการสาธารณะและความพร้อมของ MFEC 

อนาคต AI จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมบริการสาธารณะ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการให้บริการ การตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแม่นยำและรวดเร็ว การลดภาระงานที่ต้องทำซ้ำซ้อน การเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลและการสร้างบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI ผ่านการจัดทำหลักสูตรเฉพาะด้าน การสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนการพัฒนากรอบจริยธรรมและกฎหมายที่ชัดเจน ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลและสร้างความไว้วางใจจากประชาชน โดย MFEC พร้อมที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านการลงทุนอย่างยั่งยืนในโครงการร่วมระหว่างรัฐและเอกชน และการใช้ทรัพยากร AI ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทยในระยะยาว 

สรุป 

AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงและยกระดับการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การบรรลุผลสำเร็จจำเป็นต้องเอาชนะความท้าทายด้านข้อมูล บุคลากร และจริยธรรม พร้อมทั้งมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน ด้วยการพัฒนานวัตกรรม การส่งเสริมการวิจัย และการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ AI จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมในระยะยาว 

อ้างอิง 

Power of AI in Government – How Governments Globally Are Gearing to Embrace Artificial Intelligence

วิจัยปริทัศน์ – เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับการบริหารงานภาครัฐ

AI พลิกโฉมการบริการของหน่วยงานภาครัฐ: ช่วยยกระดับชีวิตคนไทยอย่างไร?

AI in Government Services ปัญญาประดิษฐ์ในการบริการภาครัฐ

7 ไอเดียนำ AI เข้ามาช่วยภาครัฐทำงานอย่างไรให้คนมั่นใจในบริการสาธารณะมากขึ้น