พื้นฐานของ AI ที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง
AI มีต้นกำเนิดจากแนวคิดโครงข่ายประสาทเทียม (Artificial Neural Networks) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการทำงานของสมองมนุษย์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1943 จนถึงปัจจุบัน AI ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถเลียนแบบกระบวนการคิด เรียนรู้ และตัดสินใจได้ในระดับที่ซับซ้อน ความสามารถเหล่านี้ทำให้ AI สามารถแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนสูง ลดภาระงานของมนุษย์ และเพิ่มโอกาสในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ โลจิสติกส์ หรือการสื่อสาร อุตสาหกรรมโทรคมนาคมถือเป็นหนึ่งในกลุ่มแรก ๆ ที่นำ AI มาประยุกต์ใช้ และด้วยบทบาทที่สำคัญต่อการเชื่อมต่อผู้คนและระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน AI จึงเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประสิทธิภาพและความสามารถของเครือข่ายโทรคมนาคมในทุกมิติ
บทบาทสำคัญของ AI ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
AI ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนและหลากหลายของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล ได้แก่
1. การเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย (Network Optimization)
AI มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อตรวจจับและแก้ไขปัญหาในเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงจาก Downtime และปรับปรุงการจัดสรรแบนด์วิดท์ (Bandwidth) ให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น AI ยังสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของผู้ใช้งานล่วงหน้า ทำให้เครือข่ายปรับตัวรองรับความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการป้องกันการฉ้อโกง (Cybersecurity & Fraud Prevention)
ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและเพิ่มขึ้น AI สามารถช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมที่ผิดปกติในเครือข่ายได้ เช่น การโจมตีแบบ DDoS หรือการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง (Phishing) โดยระบบ AI สามารถแจ้งเตือนและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้แบบเรียลไทม์ช่วยลดความเสียหายและเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
3. การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Enhancement)
AI ถูกนำมาใช้ในรูปแบบของแชทบอท (Chatbots) และระบบตอบสนองอัตโนมัติเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด นอกจากนี้ AI ยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อแนะนำแพ็กเกจหรือบริการที่เหมาะสม พร้อมตรวจจับอารมณ์ของลูกค้าเพื่อให้ทีมงานสามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงที
4. การจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Energy Management)
AI ช่วยลดการใช้พลังงานในเครือข่ายโทรคมนาคมโดยการวิเคราะห์และปรับลดการทำงานของสถานีฐานในช่วงเวลาที่มีการใช้งานต่ำ พร้อมทั้งวางแผนการตั้งเสาสัญญาณในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
ความท้าทายและอนาคตของ AI ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุคดิจิทัลที่การบริโภคข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากรายงานของ PwC คาดว่าการใช้งานเครือข่ายทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี พ.ศ. 2570 พร้อมกับความนิยมในเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเปลี่ยนแปลงนี้นำมาซึ่งความท้าทายสำคัญสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ต้องพัฒนาระบบเครือข่ายให้ทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งด้านความเร็ว ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพ การใช้งาน IoT อย่างเต็มศักยภาพไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่เทคโนโลยีที่ทันสมัยแต่ยังต้องการความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการสร้างเครือข่ายที่สามารถขยายขนาดได้อย่างยืดหยุ่นและบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การสร้างพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีในระบบนิเวศเดียวกันก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ประเทศไทยในฐานะผู้นำเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลภายใต้นโยบาย Thailand Vision 2024 โดยมีเป้าหมายพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เช่น ศูนย์ Data Center รองรับ Cloud Computing และขยายเครือข่าย 5G ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานเครือข่าย 4G และ 5G คิดเป็น 99.15% และ 91% ตามลำดับ นอกจากนี้ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) ปาฐกถาในงาน “THAILAND 2025 : โอกาส ความหวัง ความจริง” ในหัวข้อบรรยาย “AI: New opportunities” ได้กล่าวถึงการส่งเสริมการใช้ AI ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมผ่านการจัดตั้งพื้นที่ทดลอง (Regulatory Sandboxes) ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทดสอบเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและรองรับการใช้งานในภาคส่วนอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงระบบการแพทย์ที่ต้องการเครือข่ายความเร็วสูงสำหรับส่งข้อมูลช่วยชีวิตอย่างทันท่วงที AI ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของระบบโทรคมนาคม เช่น การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) และการบริหารจัดการทรัพยากรเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น AI ยังช่วยเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และในหัวข้อ “How to Stay Ahead of Future” โดยคุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) (MFEC) และ ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สคูลดิโอ จำกัด ทั้งสองได้ร่วมเสวนาถึงบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ในประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่ประเทศไทยสามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนหรือทรานส์ฟอร์มด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทั้งองค์กร สังคม และประเทศอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “คน” ในฐานะปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจด้านไอที เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและใช้ทรัพยากร โดยเฉพาะทรัพยากรมนุษย์ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
“การทรานส์ฟอร์มโดยใช้ AI สามารถพลิกสิ่งที่เป็นทั้งบริษัท สังคม และประเทศ เพราะฉะนั้นโอกาสในช่วงนี้มีเยอะสำหรับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่าน Digital Economy” – คุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร
AI กับความพร้อมของ MFEC ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
MFEC บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย ได้แสดงศักยภาพที่โดดเด่นในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม บริษัทมีความเชี่ยวชาญในด้าน IT Infrastructure, Cloud Computing และ AI Solutions ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรในทุกขนาด โดยมีบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT การพัฒนาระบบคลาวด์สำหรับองค์กร ไปจนถึงการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพิ่มศักยภาพในการทำงาน เพื่อสนับสนุนระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูง นอกจากนี้ MFEC ยังร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศ AI ที่สมบูรณ์แบบ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาระบบเครือข่าย 5G และการบูรณาการเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรในยุคดิจิทัล
สรุป
อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังเดินหน้าสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาส เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่เพียงช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่าย แต่ยังช่วยเปิดประตูสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนการเชื่อมต่อข้อมูลและการสื่อสารของโลกในอนาคต ซึ่ง MFEC มีความพร้อมในเรื่องของทรัพยากร เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีเทคโนโลยีระดับโลกและทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 27 ปี ในการปรับแต่งโซลูชันให้เหมาะสมสำหรับทุกขนาดธุรกิจ ด้วยโซลูชัน AI ของ MFEC ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและลดต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน
อ้างอิง
เปิด 3 แนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมท่ามกลางกระแสความต้องการยุค 5G
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร หลักการทำงานและการใช้ในอุตสาหกรรม
8 วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต
กสทช. นำทัพยกระดับโทรคมนาคมไทย ก้าวสู่ยุคระบบ AI หนุนค่ายมือถือเพิ่มโอกาส-พลิกโฉมหน้าทุกสาขาศก.
ศิริวัฒน์ MFEC ชี้ไอที-AI คือโอกาส แต่ SMEs เข้าไม่ถึง วัตถุดิบของธุรกิจนี้คือ คน