ในปัจจุบันที่ AI เริ่มถูกพูดถึงเป็นที่แพร่หลายกันมากขึ้น ทำให้หลายองค์กรเริ่มหาวิธีที่จะนำ AI เข้ามาใช้กับธุรกิจ และหนึ่งในวงการที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากเทคโนโลยีนี้เลยก็คือแวดวงการตลาด เพราะด้วยพลังของการวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์อนาคตของ AI ทำให้ธุรกิจสามารถคิดแคมเปญการตลาดและนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้เจาะจงขึ้นเป็นพิเศษ หรือเรียกว่า Personalized Marketing
การตลาดแบบ ‘พิเศษเฉพาะคุณ’
แทนที่จะใช้การสื่อสารทางเดียวกระจายไปที่ลูกค้าทุกคน แนวคิดนี้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก เพื่อคาดการณ์อนาคตและนำเสนอสิ่งที่เจาะจงไปที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึก ‘เป็นคนพิเศษ’ และประทับใจมากขึ้น สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่เป็นหลักการที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายตั้งแต่ระดับเล็กอย่างการที่แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งจำเมนูที่เราสั่งประจำได้ ไปจนถึงบริษัทที่ใช้ข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ในการจัดโปรโมชั่นหรือนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ยิ่งบริษัทขนาดใหญ่ ข้อมูลที่ต้องวิเคราะห์ก็ยิ่งเยอะ การใช้คนวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตัวเองจึงเริ่มเป็นไปไม่ได้ ซึ่ง AI ได้เข้ามาช่วยแก้ไขในเรื่องนี้และทำให้กระบวนการนี้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกับบริษัทที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าระดับหลายล้านคน ทำให้แนวคิดนี้สามารถถูกนำไปใช้ในระดับที่ใหญ่ขึ้นและกว้างขวางขึ้นจนทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้รับการตลาดแบบ Personalized Marketing อยู่ตลอดในชีวิตประจำวัน
ต่อไปนี้คือตัวอย่าง Case Study ของการใช้ AI มาทำ Personalized Marketing
Netflix แนะนำหนังที่ใช่สำหรับคุณ
เวลาที่เราดูหนังหรือซีรีส์บนแพลตฟอร์มเน็ตฟลิกซ์ ทางระบบจะจัดเก็บข้อมูลและพฤติกรรมการดูของเรา เพื่อนำไปวิเคราะห์และแนะนำคอนเทนต์ที่เราน่าจะสนใจมากที่สุด ทั้งแนวหนัง นักแสดงหลัก ไปจนถึงภาพหน้าปกที่เรามีแนวโน้มจะกดดูมากที่สุด ซึ่งเป็นการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและมากมายมหาศาล และยังประมวลผลตลอดเวลาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่มากที่สุดอีกด้วย เรียกได้ว่าให้คนนั่งทำไม่มีทางทำได้แน่นอน
Starbucks นำเสนอเมนูยอดฮิต พร้อมโนโมชั่นสุดพิเศษสำหรับคุณ
ร้านกาแฟชื่อดังแห่งนี้ ไม่ได้ขายแค่กาแฟไปวัน ๆ แต่ใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลในการรันร้านกาแฟแต่ละแห่งให้มีประสิทธิภาพที่สุด ใครที่สมัครสมาชิกสตาร์บัคส์ จะได้รับอีเมลหรือข้อความแจ้งเตือนโปรโมชั่นต่าง ๆ เข้ามาอยู่บ่อย ๆ โดยอ้างอิงมาจากข้อมูลการใช้บริการของเรา เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะกับเราที่สุด
หรือแม้กระทั่งเมนูที่เคาน์เตอร์หน้าร้าน ที่ในบางสาขาไม่ได้ใช้เป็นแผ่นป้าย แต่จะใช้เป็นหน้าจอ LED แทน เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลอยู่ตลอดว่าเมนูไหนขายดีในแต่ละช่วงเวลาของวัน และหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบเฉพาะสำหรับช่วงเวลานั้น ๆ โดยอัตโนมัติ อะไรแบบนี้ล้วนใช้ข้อมูลจำนวนมากที่ต้องใช้ AI ในการประมวลผลและคาดการณ์เช่นกัน
Coca-Cola กับบรรจุภัณฑ์ที่มีชื่อคุณอยู่บนนั้น
ถ้ามีใครพอจำได้ หลายปีก่อน โคคา-โคล่า น้ำอัดลมยี่ห้อดัง เคยมีแคมเปญการตลาดที่มีชื่อคนอยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบขวดหรือกระป๋อง ซึ่งทำให้เกิดเทรนด์การหาซื้อโค้กที่มีชื่อของตัวเองแล้วแชร์กันอย่างมหาศาล แน่นอนว่าแคมเปญแบบนี้ไม่สามารถจะปิดหูปิดตาทำออกมาได้ แต่โคคา-โคล่าได้ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาล ตั้งแต่ชื่อที่คนมีซ้ำกันเยอะไปจนถึงเทรนด์บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อให้การพิมพ์ชื่อบนบรรจุภัณฑ์มีความแม่นยำและมีโอกาสตรงกับชื่อคนจำนวนมากให้มากที่สุด
การตลาดแบบ Personalized Marketing เป็นสิ่งที่นักการตลาดไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ที่มีทั้งทรัพยากรและข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก และยิ่งในปัจจุบันที่มีการนำ NLP มาใช้เพื่อให้ AI เข้าใจภาษามนุษย์ได้มากขึ้น จะยิ่งเพิ่มความแม่นยำให้การวิเคราะห์และทำให้การตลาดแบบ ‘พิเศษเฉพาะคุณ’ ทำให้ลูกค้าของคุณรู้สึกพิเศษและประทับใจกับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก
สนใจบริการต่าง ๆ ของทาง MFEC สามารถดูเพิ่มเติมและติดต่อได้ที่: https://www.mfec.co.th/solutions-and-services/
#MFEC #AI