Skip links
View
Drag

ตลาด Cloud เนื้อหอม Alibaba Cloud บุกตลาดเอเชียแปซิฟิกสู้ AWS

เกาะติดความเคลื่อนไหว Alibaba ยักษ์ใหญ่วงการอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน กับบทบาทผู้ให้บริการ Cloud Computing Service ล่าสุดเปิดศูนย์DataCenter แห่งใหม่ในอินเดียและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะขยายศูนย์ Data Center เพิ่มอีก 2 แห่งภายในเดือนมีนาคม 2561 นี้ ถือเป็นความต่อเนื่องของเมกะโปรเจกต์ของ Alibaba Cloud ตอกย้ำสู่เป้าหมายการสร้างศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตหรือ Data Center 15 แห่งทั่วโลก

โดยที่ยักษ์ใหญ่รายนี้ ได้ตั้งเป้าทำตลาดในกลุ่มธุรกิจเป้าหมายขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (SME) เป็นหลัก เพื่อขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์มากขึ้น และง่ายขึ้นต่อธุรกิจของกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา Alibaba Cloud ได้ร่วมกับ Singtel ในการช่วยให้ธุรกิจ SME ต่างๆ ของ Singapore ย้ายระบบขึ้น Alibaba Cloud ภายใต้ Campaign ที่ชื่อว่า 99% SME  โดยวางจุดแข็งในการแข่งขันกับตลาด Cloud Provider อื่นๆ ด้วยกลยุทธ์ เข้าใจในวัฒนธรรมและความต้องการเชิงลึกในตลาดของคนเอเชีย ที่มีมากกว่า Cloud Provider อื่นๆ

99% SME เป็นโครงการที่สนับสนุนให้ธุรกิจ SME พัฒนาธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการธุรกิจ Online  การทำตลาด Online ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัท Singtel และธนาคาร DBS ให้การสนับสนุนเงินลงทุน และจัดโปรโมชั่นต่างๆ

เปิดงบ Alibaba Cloud ปีล่าสุดโต 70% ขึ้นอันดับ 6 ในอุตสาหกรรม 

ในปีงบประมาณ 2560 ของ Alibaba ธุรกิจ Alibaba Cloud เติบโตขึ้น 70% จากปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าที่ใช้งานถึง 874,000 บัญชีใช้งาน โดยมีทั้งกลุ่มลูกค้า SME, StartUp และองค์กรขนาดใหญ่ แต่หากเปรียบเทียบยักษ์ใหญ่ Cloud Provider อย่าง Amazon Web Services (AWS) อาจจะใช้คำว่ายังห่างไกล ทั้งทางด้านการรองรับเทคโนโลยีต่างๆ หรือส่วนแบ่งทางการตลาด

ซึ่งปัจจุบัน Alibaba Cloud สามารถทำรายได้ในไตรมาสที่ผ่านมาด้วย 254 ล้านดอลล่าร์  ในขณะนี้ AWS มีรายได้ถึง 3.53 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจากผลการจัดอันดับ Alibaba Cloud ถือเป็นอันดับ 6 ในตลาดอุตสาหกรรมนี้ ตามหลัง AWS, Microsoft, Google, IBM และ Salesforce แต่ด้วยกลยุทธ์ China Connect เน้นการให้บริการสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำตลาดกับประเทศจีน ซึ่งมีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน และเป็นตลาดใหญ่สำหรับนักลงทุนต่างๆ ก็ทำให้ Cloud Provider อื่นๆ ต้องแข่งขันอย่างหนักในตลาดภูมิภาคนี้

สำหรับประเทศไทย จะเห็นได้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการลงทุนร่วมกับ Alibaba  จากข่าวการลงทุนในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดย Alibaba ตั้งเป้าเน้น E-Commerce และ ให้ประเทศไทยเป็น Logistic Hub เชื่อมโยงประเทศอาเซียนภายใต้โครงการ Gen 5 e-commerce Park  อีกทั้ง การลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลไทย ที่ให้บริษัท Lazada ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Alibaba ผลักดันธุรกิจ SME ในประเทศไทยไปสู่การทำ E-Commerce  โดยให้ความรู้ทาง E-commerce Platform ให้กับ SME ในไทยกว่า 3 หมื่นราย

“โครงสร้างพื้นฐานของ Alibaba Cloud ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความรวดเร็ว น่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัยสูง”

Alibaba Cloud คือการให้บริการระบบ Cloud ไม่ว่าจะเป็นบริการ Web Hosting หรือการให้บริการประมวลผลบนระบบ Cloud ซึ่ง ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับธุรกรรมของธุรกิจในกลุ่ม Alibaba ทั้งหมด โดยเฉพาะในเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์วัน Single Day หรือวันคนโสด (วันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปี) ที่มีการซื้อขายสินค้าอย่างถล่มทลาย โดยในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 รองรับการทำธุรกรรมซื้อขายและชำระเงินทั้งสิ้น 467 ล้านคำสั่งซื้อ มีการชำระเงิน 140,000 รายการต่อวินาที มีมูลค่ารวมกว่า 14.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นระบบโครงสร้างพื้นฐานของ Alibaba Cloud ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความรวดเร็ว มั่นคงปลอดภัย และน่าเชื่อถือ ซึ่ง Alibaba Cloud ได้เริ่มให้บริการกับลูกค้าทั่วไปตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา