เรามักได้ยินคำว่า Internet of Things หรือ IoT กันอย่างหนาหูในช่วงหลังๆ โดย IoT มักรวมถึงอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่เราไม่ได้ใช้งานโดยตรงแตกลับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตั้งแต่กล้องวงจรปิด, เซ็นเซอร์ประตู, หลอดไฟเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไปจนถึงเซ็นเซอร์กันขโมยตามหน้าต่าง
การที่บ้านมีเซ็นเซอร์จำนวนมากที่เชื่อมเข้าสู่ศูนย์กลางนั้นมีมานานแล้ว แต่ก็มักเป็นการเดินสายไปทั่วบ้านที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือบางระบบที่เป็นระบบไร้สายก็มักใช้ได้เฉพาะยี่ห้อเท่านั้น แต่โปรโตคอล Zigbee ที่กำหนดมาตรฐานโดย Zigbee Alliance กำลังกินส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์ IoT อย่างต่อเนื่อง และเป็นไปได้ที่มันจะกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมในอนาคต
Zigbee เป็นโปรโตคอลสำหรับเชื่อมต่อไร้สายคล้าย Wi-Fi แต่มันมีแนวคิดเพิ่มเติม คือการที่โปรโตคอลออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์กินพลังงานต่ำมากๆ เช่น เซ็นเซอร์ประตูเปิดปิด อาจจะส่งข้อมูลไร้สายด้วยแบตเตอรี่ก้อนเดียวนานนับปี ทำให้การติดเซ็นเซอร์จำนวนมากในบ้านมีค่าใช้จ่ายถูกลง นอกจากนี้มันยังเปิดทางให้อุปกรณ์ที่มีแหล่งพลังงานของตัวเอง เช่น ปลั๊กไฟอัจฉริยะหรือหลอดไฟเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สามารถทำหน้าที่ช่วยส่งข้อมูลให้กับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ ได้ด้วย
การออกแบบของ Zigbee ต้องการศูนย์กลางเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตหนึ่งจุด เรียกว่า gateway ชุดอุปกรณ์ IoT ยี่ห้อต่างๆ ก็มักมีชุดเริ่มต้นเป็น gateway คู่กับอุปกรณ์บางชิ้น เช่น หลอดไฟ หรือเซ็นเซอร์สองสามตัว การที่อุปกรณ์ไม่ใช้แบตเตอรี่อย่างหลอดไฟสามารถส่งต่อข้อมูลได้ทำให้พื้นที่ให้บริการก็จะครอบคลุมบ้านทั้งหลังโดยไม่ต้องติดตั้ง gateway เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ผู้ผลิตอุปกรณ์ IoT ที่วางขายในประเทศไทย เช่น Xiaomi หรือ IKEA ล้วนใช้ Zigbee ในการพัฒนาสินค้า และเมื่อปีที่แล้ว Amazon, Apple, และ Google ก็ร่วมมือกับกลุ่ม Zigbee ในการพัฒนามาตรฐานเพิ่มเติม เปิดทางให้อุปกรณ์ Zigbee น่าจะเข้าถึงแพลตฟอร์มเช่น Google Assistant หรือ Apple HomeKit ได้สะดวกขึ้น
– – –โดยคุณลิ่ว วสันต์ ลิ่วลมไพศาลChief Technology Officer, MFEC