หลังจากที่ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปี 2559 ผ่านการพิจารณาในวาระ 3ไปแล้ว เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (16 ธ.ค.) ผลสรุปของพ.ร.บ.ฉบับนี้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ผ่านฉลุย แม้จะมีกระแสต่อต้านร่างกฏหมายฉบับนี้อย่างมากในหลายภาคส่วนโดยเฉพาะคนไอทีก็ตาม
ประเด็นหลักที่ถูกพูดถึงและแชร์ข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง คือ พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องผลกระทบสิทธิประชาชน และที่สำคัญสิ่งที่หลายคนเป็นห่วงคือการคืนชีพ “Single Gateway” ซึ่งเป็นโครงการคุกคามสิทธิ์ส่วนบุคคลในโลกไซเบอร์ระดับประเทศ ทื่ล้มไม่เป็นท่า เพราะประชาชนต่างร่วมใจกันคัดค้าน
ต่อมาเมื่อพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับนี้ถูกทำให้กลายเป็นกฏหมาย แน่นอนว่าผู้คนหลายกลุ่ม จึงตั้งข้อสังเกตถึง พ.ร.บ. ฉบับนี้ว่าเป็นการคืนชีพ “Single Gateway” ในอีกรูปแบบหรือไม่ เพราะ (สนช.) ผ่านร่างทั้งที่ไม่ยอมฟังเสียงของประชาชนที่มีกระแสต่อต้าน พ.ร.บ. ดังกล่าวโดยมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตร่วมกันลงชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org กระทั่งมียอดลงชื่อต้านกว่า 3 แสนคนเลยทีเดียว
โดยเรื่องนี้ต้องย้อนกับไปพูดถึงการเริ่มต้นของ “Single Gateway” กันเสียหน่อย ซึ่งเมื่อกว่าปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามพลักดันจัดตั้งโครงการนี้ โดยมอบหมายให้กระทรวงไอซีทีรับผิดชอบภาพกว้าง ในการตรวจสอบข้อมูลที่ไม่เหมาะสม หรือบล็อกข้อมูลที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย รวมทั้งเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยการก่อการร้าย ซึ่งอีกนัยหนึ่งรัฐบาลก็สามารถปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนได้อย่างถูกกฏหมายด้วย ซึ่งนั้นจะทำให้มีข้อเสียตามมาในอีกหลายด้านในอนาคต เรียกได้ว่ามีข้อเสียมากกว่าข้อดีก็ว่าได้โครงการนี้เลยสาบสูญไปแต่โดยดี
กลับมาที่ปัจจุบัน ทางรัฐบาลเองก็ออกมายืนยันผ่าน พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพบกว่า กรณีดังที่มีคนสงสัยว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ใหม่ เป็นการคืนชีพ Single Gateway นั่นเป็นการพยายามสร้างกระแสบิดเบือนข้อกฎหมายของบุคคลบางกลุ่ม ให้เกิดความตื่นตระหนก ซึ่งในประเด็นนี้ มีผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสายไอทีและนักฏหมายหลายท่านร่วมไปถึงทนายหน่อย-พิษณุ พานิชสุข นักกฎหมายได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว กับหนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กูรูด้านไอทีชื่อดัง ผ่านการไลฟ์สด ถึงประเด็นการคืนชีพ Single Gateway เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชนทำนองว่า
หลังจากที่ได้พิจารณาร่างกฏหมายกันอย่างละเอียดถึง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฉบับนี้ จากการพูดคุยยาวนานของทั้งสองท่าน สรุปประเด็นนี้ได้คร่าวๆ ว่า พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับใหม่นี้ ไม่เกี่ยวข้องกับ Single Gateway เลยแม้แต่น้อย แต่จะมีความชัดเจนมากกว่า พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ปี 2550 ในเรื่องของความรุนแรงของการบังคับใช้ข้อกฏหมายเพื่อป้องปรามเหตุ ซึ่งสรุปได้ว่าในกรณีข้อเท็จจริงประเด็นการหยิบยกเรื่องของ Single Gateway มาเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฉบับนี้ไม่เป็นความจริง
นอกจากนั้นทั้งคู่ยังให้ความรู้ถึง พ.ร.บ.ดังกล่าวอีกว่า พ.ร.บ. นี้จะเน้นไปที่เรื่องของประโยชน์ด้านการคุ้มครองลิขสิทธิ์ทางปัญญา และให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนทั่วไปและผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในอีกหลายกรณีที่อาจเกิดการผิดพลาดด้วยความไม่รู้ ซึ่งแน่นอนว่า พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์นี้ยังคงไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน อย่างที่ประชาชนเป็นห่วง และในอนาคตเรื่องนี้จะชัดเจนขึ้นเรื่องๆ เมื่อเกิดกรณีตัวอย่าง
สุดท้ายสรุปอีกครั้งว่า พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ปี 2559 ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ Single Gateway เลยแม้แต่น้อย ซึ่งทั้งนี้ประชาชนควรเปิดใจและเข้าไปทำความเข้าใจกับแนวทางของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ปี 2559 ด้วยตัวเองจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ทั้งคู่ยังฝากไว้อีกทำนองว่า ถ้าหากเราเองไม่ใช่คนที่มีความผิด ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร
ภาพจาก change.org