Skip links
View
Drag

Solution and Services

Webex ฟีเจอร์ใหม่ กับโลโก้ที่มีความหมายยิ่งกว่าเดิม

มาเข้าเรื่องโลโก้ใหม่กันก่อน จริงๆแล้วเส้นม้วนๆนี่หมายความว่าอะไรกันแน่ สื่อถึงฟีเจอร์ใหม่ของ Webex ด้วยหรือเปล่า? Cisco ให้คำอธิบายโลโก้ไว้ว่า    1. Flexibility ความยืดหยุ่นในการใช้งาน ใช้ที่ไหน เมื่อไร บนอุปกรณ์อะไรก็ได้ แล้วแต่สไตล์การทำงาน    2. Inclusive ทุกคนได้รับประสบการณ์การใช้ที่ดีเหมือนๆกัน ไม่ว่าจะอยู่ประเทศอะไร พูดภาษาไหน หรือใช้เพื่อการสื่อสารแบบใดก็ได้ และสุดท้าย    3. Secure หรือเรื่องของความปลอดภัยที่หลายคนกำลังตื่นตัว ส่วนนี้เขาก็เคลมไว้ว่าจะ รูปลักษณ์ภายนอกปลอดภัย มีความส่วนตัวได้เลยโดยไม่ต้องตั้งค่า รวมถึงป้องกันผู้ใช้จากภัยคุกคามไม่ว่าคุณ      จะอยู่ที่ใดก็ตาม ส่วนตัวฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดของเวอร์ชันนี้ก็คือ Webex Assistant for Webex Meetings ซึ่งเป็น Function ใหม่ของ Webex Meeting และ Event สำหรับผู้ใช้ประเภท Paid Plan (เสียเงิน) โดยมีการนำ Artificial Intelligent (AI) มาช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และได้เพิ่มส่วนของ Closed Caption และ Highlight ที่ใช้ Voice Command ในการสั่งงาน หากต้องการเปิดใช้งานก็แค่กดไอคอน Assistant เท่านั้น โดยเจ้าตัว Closed Caption นี้เป็นการขึ้นตัวหนังสือตามที่มีคนพูดในห้องประชุม คล้าย Subtitle เวลาดูภาพยนตร์ ซึ่งขณะนี้สามารถใช้ได้กับภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ถ้าหากผู้ใช้มีตัวแปลภาษาเชื่อมกับ Webex ไว้อยู่แล้ว ก็สามารถแปล Closed Caption แบบ Real Time (เรียลไทม์) ได้มากกกว่า 100 ภาษาเลยทีเดียว โดยการใช้งานก็ไม่ยาก แค่คลิกไอคอน CC ง่ายๆเพียงครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องให้ Host เป็นคนอนุญาต ด้านของฟังก์ชัน Highlight ผู้ใช้สามารถใช้ Voice Command (ใช้เสียงในการสั่งงาน) เพื่อทำการเน้นข้อความที่คิดว่าเป็นใจความสำคัญของการประชุมได้ในทันที เช่น สั่งว่า “OK Webex, (ข้อความที่ต้องการไฮไลต์) highlight that” เพียงแค่นี้ก็สามารถเน้นประเด็นสำคัญในทุกๆการประชุมได้แล้ว สรุปก็คือ Webex แบบใหม่ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกอย่างโลโก้ และฟีเจอร์ต่างๆ สื่อไปถึงความสำคัญที่เป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ อย่าง Flexibility Inclusive และ Secure โดยเน้นให้การใช้งานในยุคที่ถึงแม้ทุกคนอยู่ห่างกัน แต่กลับรู้สึกใกล้กันมากยิ่งขึ้น

admin mfec

admin mfec

Virtual Cloud Network – The Future of Network Security in the Cloud.

ทำให้พบอุปสรรคจากการเชื่อมต่อเครือข่ายทำให้ไม่สามารถใช้งานเชื่อมต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ในขณะที่กำลังประชุมออนไลน์ Internet ที่บ้านดันมีการใช้งานหลายคน ทำให้เกิดการติดขัดขึ้นระหว่างการประชุม ดังนั้นสิ่งที่จะมาช่วยให้การเชื่อมต่อสามารถทำงานได้อย่างมีสิทธิภาพ ตอบโจทย์การทำงานให้ง่ายขึ้นคือ SD-WAN  มีรายงานออกมาถึงผลการใช้งาน SD-WAN กล่าวว่า “เมื่อลูกค้านำกล่อง SD-WAN ไปติดตั้งและให้คนอื่นๆ ทดลงใช้ที่บ้านเป็นประมาณ 2 สัปดาห์ ผลปรากฏว่าเทคโนโลยีนี้ได้เข้ามาช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ Network ถึง 90%” ความสามารถของ SD-WAN จะช่วยให้คนที่ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์เกี่ยวกับ WAN ที่เป็นส่วนตัวในบ้านของตัวเอง ความก้าวหน้าครั้งใหม่ของเทคโนโลยี SASE ที่ VMware นำเสนอนั้นจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยในโลกของการทำงานออนไลน์ แต่เดิมนั้น Vmware จะถูกพูดถึงในเรื่องของ security นั้นคือ black boxes, appliances, firewall, web proxies ถูกนำไปใช้งานในรูปแบบของ DMZ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Vmware นิยามสิ่งเหล่านี้แล้วนำมาพัฒนาเป็น software และถ้านำ service เหล่านั้นมาใช้งานผ่านสิ่งที่ Gartner เรียกว่า Secure Access Services Edge หรือ SASE และนี่คือสิ่งที่ VMware กำลังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีนี้อย่างมาก SD-WAN/SASE – Feature สำหรับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงแอปพลิเคชัน  Secure Access Service Edge (SASE) ประกอบด้วย 4 หัวข้อหลัก ดังนี้  Secure SD-WAN   เป็นฟังก์ชั่นสำหรับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ WAN โดยมาช่วยในการรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการ performance สูงๆ Zero-trust Network Access   การจัดการสิทธิ์การเข้าใช้งาน โดยทำงานร่วมกับ การเพิ่มการตรวจสอบความถูกต้องเพื่อเป็นการรับรองอีกชั้นหนึ่งหรือที่เรียกว่า Multifactor Authentication (MFA)  Firewall-as-a-Service (FWaaS) Fire  Firewall บน cloud ในรูปแบบของ service มีความสามารถด้านความปลอดภัยสามารถทำ filtering URL, การป้องกันการ attack ต่างๆ และยังสามารถทำ policy management ที่เหมือนกันครอบคลุมทั้ง network ในองค์กรได้ Secure web gateways (SWG)  ป้องกันภัยคุกคามต่างๆ จากโลก Cyber และยังป้องกันการเข้าถึงของข้อมูลใน Website ที่ไม่ต้องการ อีกทั้งสามารถป้องกันไม่ให้ User ที่ไม่มีสิทธิ์สามารถใช้งานได้โดยกำหนดตามนโยบายของบริษัท VMware Tanzu Service Mesh  สร้างขึ้นบน VMware NSX เป็นโซลูชั่นเครือข่ายบริการระดับองค์กรของ VMware ที่ให้การควบคุมและความปลอดภัยสำหรับไมโครเซอร์วิสสำหรับผู้ใช้งานและข้อมูลในคลัสเตอร์และคลาวด์ทั้งหมดในระบบมัลติคลัสเตอร์และมัลติคลาวด์ โดย Tanzu service mesh จะช่วยให้ขั้นตอนการปกป้องและตรวจสอบไมโครเซอร์วิสง่ายขึ้นดังนี้ ใช้ Global namespace เพื่อขับเคลื่อนความสามารถในการทำงานข้าม platform และ cloud อื่นๆ ได้ กำหนด policy สำหรับการทำ failover และส่วนที่เหลือนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ

admin mfec

admin mfec

ทำความรู้จัก Zendesk ตัวช่วยบริหารจัดการระบบลูกค้าสัมพันธ์ที่ MFEC แนะนำ

Zendesk คือ Cloud Based Solution ที่ช่วยในการบริหารจัดการระบบลูกค้าสัมพันธ์ (Customer engagement) ที่ใช้ในการบริการลูกค้าในการติดต่อ สอบถาม หรือประสานงานต่างๆ กับองค์กรหรือเจ้าของกิจการ และในอีกแง่มุมหนึ่ง Zendesk ก็ยังสามารถใช้ในการบริหารจัดการติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล หรือแจ้งปัญหาของผู้ใช้งานในองค์กรหรือบริษัทได้อีกด้วย Zendesk เปรียบเสมือนระบบ Ticketing System  ที่ช่วยทำให้ผู้ใช้งานสามารถทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าที่มีการติดต่อประสานกันหรือข้อมูลต่างๆ ในองค์กรในเบื้องต้น ซึ่งจุดเด่นของ Zendesk คือการรวมทุกๆ ช่องทางในการติดต่อสื่อสารไว้ที่หน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่าน Social Media จากหลากหลายช่องทาง อาทิ เช่น Line Official, Facebook, Twitter, Youtube, Facebook messenger, Phone, Email ผ่านทางหน้าจอ Zendesk เพียงหน้าเดียวทำ เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้ติดต่อและผู้รับเรื่องนั้นมีข้อมูลรายละเอียดของลูกค้า สามารถติดต่อประสานงาน ส่งต่องานหรือการดำเนินการแก้ไขรวมถึงการประสานงานไปยังบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วและเป็นขั้นตอน ทั้งนี้ยังสามารถชี้วัดการทำงานให้ครอบคลุมตาม SLA ที่องค์กรได้กำหนด เพื่อให้สามารถตอบสนองการทำงานและความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ Zendesk ยังมีหน้าจอแสดงถึงภาพรวมในการทำงาน ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อสะดวกและรวดเร็วในการทำงานหรือตรวจสอบสถานะงานที่ยังคงค้างอยู่ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และสามารถนำข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบจัดทำออกมาเป็นรายงานได้ตามความต้องการ Zendesk Solution มีหลากหลายความสามารถที่จะช่วยในการบริหารจัดการระบบงานต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน อาทิ Zendesk Support หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็น Features หลักที่ควรจะต้องมีเป็นพื้นฐานของการทำงานในองค์กรหรือการติดต่อประสานงานจากลูกค้าภายนอก ด้วยระบบ Ticketing System ที่พร้อมใช้งานได้ง่าย อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทำให้ทราบถึงช่องทางในการติดต่อที่หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ อีเมล์ หรือช่องทาง Social Media จากทางลูกพร้อมทั้งดำเนินการส่งต่องานไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง Zendesk Guide เปรียบเสมือนคลังความรู้และข้อมูลบริการจากแหล่งต่างๆ ให้มาอยู่ในที่เดียวกัน ที่สามารถช่วยให้องค์กรใช้เป็น (Knowledge base) เพื่ออำนวยความสะดวกและประหยัดเวลาในการค้นหาคำตอบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่การค้นหาข้อมูลจากลูกค้าผ่านทางหน้าเว็บเองหรือการหาข้อมูลของเจ้าหน้าที่ภายในองค์กรเอง ในรูปแบบ Self service เพื่อลดปริมาณการเปิด ticket หรือการแจ้งปัญหาต่างๆ จากทางลูกค้า  Knowledge based นี้ยังช่วงลดปริมาณงานหรือ ticket ที่จะเกิดขึ้นในระบบอีกด้วย Zendesk Chat เป็นอีก Feature ที่ Zendesk จัดเตรียมไว้เพื่อรองรับการติดต่อสื่อสารทั้งในองค์กรและจากลูกค้าภายนอก ช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ทันทีกับเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง แทนการโทรศัพท์เพื่อสอบถามหรือแจ้งปัญหาต่างๆ สามารถทำได้โดยการนำไปติดตั้งยังหน้าเว็บต่างๆ ได้ตามความต้องการ ลดความยุ่งยากในการหาข้อมูลหรือสิ่งที่อยากทราบเบื้องต้น ด้วยการพูดคุยในรูปแบบ real time เพื่อเป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและพนักงานในองค์ Zendesk Talk เรียกได้ว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Call center ซอฟต์แวร์ ที่ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบ Call Center ใดอยู่ก็สามารถเชื่อมต่อระบบโทรศัพท์นั้น เข้ากับระบบ Zendesk Ticketing System ด้วย Zendesk Talk Feature เพิ่มความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ทำให้สามารถทราบรายละเอียดเบื้องต้นของผู้ที่ทำการโทรเข้ามา และง่ายต่อการเปิด ticket ในระบบ ด้วยการรับสายและบันทึกข้อมูลของการโทรเข้ามาเพื่อเปิดเคสแบบอัตโนมัติ Zendesk Explore คือระบบที่ช่วยในการจัดทำหน้าจอเพื่อแสดงภาพรวมของระบบที่กำลังใช้งานอยู่ (single dashboard) โดยสามารถปรับแต่งรูปแบบได้ตามความต้องการ ทั้งในรูปแบบกราฟ รูปภาพ หรือข้อความ พร้อมทั้งยังสามารถจัดทำในรูปแบบรายงานที่ได้จากในระบบ

admin mfec

admin mfec

Elastic Compute Service (ECS) รุ่นที่ 6 ปรับปรุงใหม่จาก Alibaba Cloud

Alibaba Cloud Elastic Compute Service (ECS) ให้สภาพแวดล้อมในการประมวลผลรูปแบบเสมือนที่มีความสามารถในการประมวลผลอย่างยืดหยุ่นต่อส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เช่น CPU, หน่วยความจำ, และพื้นที่ในการเก็บข้อมูล ซึ่งแตกต่างจากเซิร์ฟเวอร์ทางกายภาพ ECS ที่มีการใช้งานที่ง่าย, ปรับขนาดได้, และให้การใช้งานได้เร็วขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องลงทุนบนฮาร์ดแวร์ใดๆ ล่วงหน้า สำหรับ ECS เราสามารถ แนบ/แยก พื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม, การสำรองข้อมูลอิมเมจ และการทำแสนปช็อต ตามความต้องการได้ทุกเมื่อ คุณสมบัติต่างๆ ของ Alibaba Cloud ECS ได้แก่: • การปรับขนาดที่ยืดหยุ่น: สามารถเปิดและจัดหาทรัพยากรและอัพเกรด/ปรับลดแบนด์วิดท์เครือข่ายตามความต้องการการใช้งานทางธุรกิจ • ให้เสถียรภาพในการใช้งานที่สูง: การันตีความพร้อมใช้งานของบริการที่ 99.95% ด้วยคุณสมบัติเช่นการสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลในระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ • ประสิทธิภาพสูง: สนับสนุนดิสก์ในการเก็บข้อมูลหลายรูปแบบ เช่น คลาวด์ดิสก์ คลาวด์ดิสก์อัลตร้า คลาวด์ดิสก์ SSD และ ESSD นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของดิสก์ตามความต้องการทางธุรกิจ • ปลอดภัยสูง: Alibaba Cloud ECS สนับสนุนการป้องกัน DDoS และ Network Security Group (NSG) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอินสแตนซ์ในพอร์ตต่าง ๆ ได้ ECS รุ่นล่าสุดนี้ใช้ สถาปัตยกรรม X-Dragon ให้การคาดการณ์และการทำงานที่สอดคล้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลด virtualization overheads นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการจัดเก็บข้อมูล ด้านเครือข่าย และด้านความสามารถในการประมวลผล Alibaba Cloud Elastic Compute Service (ECS) เป็นหนึ่งในบริการที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถสร้างสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์เสมือน สร้างเซิร์ฟเวอร์คลาวด์เสมือนที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย ตอบสนองความต้องการทั้งหมดตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับองค์กร เข้าชมบทความที่แสดงให้เห็นถึงภาพรวมของตระกูลอินสแตนซ์ ECS รวมถึงลักษณะเด่นพิเศษของ อินสแตนซ์ Elastic Compute Service (ECS) รุ่นที่หกปรับปรุงใหม่จากอาลีบาบาคลาวด์ และ การเปรียบเทียบ ECS ในตระกูลอินสแตนซ์รุ่นที่หก ได้ที่นี่ https://www.alibabacloud.com/blog/experiencing-the-sixth-generation-enhanced-type-elastic-compute-service-ecs-instances_596714 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมและโปรโมชันต่าง ๆ พร้อมกรอกข้อมูลเพื่อการติดต่อกลับได้จากลิงค์นี้

admin mfec

admin mfec

บริการ Elastic Compute Services ตอบทุกการใช้งานโซลูชันทางธุรกิจจาก Alibaba Cloud

Alibaba Cloud เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและใหญ่เป็นอันดับสามของโลกจากการให้บริการผลิตภัณฑ์บริการและโซลูชันระบบคลาวด์ พวกเขาได้รับการนำเสนอใน Gartner Magic Quadrant สำหรับการมีส่วนร่วมใน Cloud IaaS และเนื่องมาจาก Alibaba Cloud ได้พัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศของตัวเองทำให้ Alibaba Cloud Elastic Compute Service (ECS) ก็ได้กลายเป็นบริการที่สามารถปรับแต่งได้โดยทุกคนทั่วโลก ECS คืออะไร? Elastic Compute Service (ECS) เป็นบริการที่มีประสิทธิภาพสูงเชื่อถือได้และสามารถปรับขนาดได้ตามการใช้งานพัฒนาโดย Alibaba Cloud เพื่อช่วยในการประยุกต์ใช้ธุรกิจ โดยอาศัยระบบปฏิบัติการ Apsara Distributed อาลีบาบาคลาวด์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะนี้อย่างเต็มตัว เพื่อให้บรรลุการจัดการที่ไร้ขอบเขตของเซิร์ฟเวอร์นับล้าน ECS ได้รับการพัฒนาเพื่อเอาชนะความท้าทายด้านคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขยายทรัพยากร การทำงานงานในรูปแบบอัตโนมัติ และการบำรุงรักษาลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ (E-commerce, Finance, Education, Scientific Computing และISP) Alibaba Cloud ECS สามารถปรับขนาดตามการใช้งานได้ ให้ความยืดหยุ่นสูง ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของคุณได้ ตั้งแต่เว็บไซต์โฮสติ้งไปจนถึงคลัสเตอร์การคำนวณขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย สามารถให้บริการ vCPUs นับแสนได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีสำหรับลูกค้ารายเดียวในภูมิภาคเดียว เนื่องจากมีอัลกอริทึมในการจัดวางที่ซับซ้อน การวางแผนในรูปแบบไดนามิก และการเพิ่มประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์ เข้าดูเพิ่มเติมเพื่อศึกษา ส่วนประกอบและคุณสมบัติของ ECS ได้ที่นี่  https://www.alibabacloud.com/blog/elastic-compute-service-for-scalable-business-solutions-by-alibaba-cloud_596724   สรุป เพื่อปรับขนาดโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับธุรกิจที่กำลังเติบโต Alibaba Cloud Elastic Compute Service เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด พร้อมด้วยโซลูชันอัจฉริยะที่พร้อมให้การยืดหยุ่นและปรับขนาดตามการใช้งานได้ ปลอดภัย เข้าถึงได้ทั่วโลก และเชื่อถือได้ Alibaba Cloud ECS จะช่วยปรับใช้ทรัพยากรได้อย่างทันทีเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจในรูปแบบเรียลไทม์และเอื้อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ระบบเครือข่ายประสิทธิภาพสูง ระบบอัตโนมัติ ให้ความเสถียรในระหว่างการใช้งาน พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และอื่นๆอีกมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมและโปรโมชันต่าง ๆ พร้อมกรอกข้อมูลเพื่อการติดต่อกลับได้จากลิงค์นี้

admin mfec

admin mfec

Alibaba ผู้ให้บริการ IaaS รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดย Gartner

Alibaba ผู้ให้บริการ IaaS รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดย Gartner อาลีบาบาได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ให้บริการ IaaS เป็นรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิกโดย Gartner Alibaba Cloud  เป็นบริษัทผู้นำด้านโครงข่ายข้อมูลอัจฉริยะหลักของ Alibaba Group ซึ่งได้รับการประกาศว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS) และในปี 2019 Alibaba Cloud  ยังเป็นผู้ให้บริการในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน กล่าวในรายงานล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและที่ปรึกษาระดับโลกของ Gartner ส่วนแบ่งการตลาดของอาลีบาบาในตลาด IaaS ทั่วโลกในปี 2019 ได้ไต่ระดับขึ้นไปที่ 9.1% ขึ้นมา 7.7% เทียบกับปีก่อนหน้า จากรายงานส่วนแบ่งการตลาดบริการด้านไอทีปี 2019 ของ Gartner นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าในส่วนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วนแบ่งการตลาดของอาลีบาบาเพิ่มขึ้นเป็น 28.2% ในปีที่ผ่านมาจากเดิมที่ 26.1% ใน2018 “เราเชื่อว่าการเติบโตที่แข็งแกร่งและการเป็นผู้นำในตลาดชั้นนำของเราเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงการทำงานอย่างหนักของทีมงาน ในการสนับสนุน ช่วยเหลือ ลูกค้าและพันธมิตรจำนวนมากของเราทั่วโลกซึ่งเรารู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริง” Jeff Zhang ประธาน Alibaba Cloud Intelligence กล่าว “เรามุ่งเน้นที่จะได้ทำงาน ช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกของเราสามารถปรับกลยุทธ์ให้สามารถเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบดิจิทัลผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถปรับขนาดได้ อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและยังพร้อมด้วยระบบนิเวศที่พัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง” “รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอาลีบาบาคลาวด์ต่อกลยุทธ์ระดับโลก ที่ตั้งเป้าขยายสถานะไปทั่วโลกด้วยการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายเน็ตเวิร์คระดับโลกของเรา” Zhang กล่าวเพิ่มเติม ปัจจุบัน Alibaba Cloud สามารถให้บริการในพื้นที่ที่ครอบคลุมมากถึง 63 โซน 21ภูมิภาค และมีความพร้อมในการให้บริการลูกค้านับล้านทั่วโลก อีกทั้งยังได้การรับรองเรื่องความปลอดภัยและปฏิบัติตามมาตรฐานสากลมากกว่า 70 แห่งทั่วโลก Alibaba Cloud มุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการบนระบบคลาวด์ที่เพิ่มมากขึ้นและดียิ่งขึ้น โดยมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มอีก 2แสนล้านหยวน (ประมาณ 28พันล้านเหรียญสหรัฐ) ในระหว่าง 3 ปีข้างหน้า โดยการลงทุนจะเน้นไปที่ โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์  ทั้งในส่วนเทคโนโลยี ,ระบบปฏิบัติการ, เซิร์ฟเวอร์, หน่วยประมลผล และ เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน Alibaba Cloud เป็นเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มระบบคลาวด์สาธารณะที่ให้การสนับสนุนระบบนิเวศที่หลากหลายตั้งแต่อีคอมเมิร์ซ ระบบการชำระเงินไปจนถึงโซลูชันการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ซึ่งสามารถรองรับการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงถึง 38.4พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในหนึ่งวันของช่วงเทศกาลช้อปปิ้งระดับโลก อาลีบาบา 11.11 ในปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากรายงานวิจัยของ Gartner ที่กล่าวถึงแล้ว รายงานก่อนหน้านี้จากการวิจัยตลาดและบริษัทที่ปรึกษา International Data Corporation (IDC) แสดงให้เห็นว่า Alibaba Cloud ได้มีการบันทึกถึงการเติบโตของรายได้ตลอดทั้งปีที่เร็วที่สุด เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ทั่วโลกรายอื่นๆ ในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา หากต้องการดูรายงาน Gartner โปรดคลิกที่นี่ (เนื้อหาสามารถเข้าถึงได้เฉพาะสมาชิก Gartner เท่านั้น โดยระบุไว้ในรายงานในนามของ Alibaba Group)

admin mfec

admin mfec

คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันด้านความปลอดภัยด้วย CDN: การจัดการการปลอมแปลง การโจมตี และเนื้อหา

หลังจากวิวัฒนาการทางเทคนิคและประสบการณ์การใช้งานจริงมานานกว่าทศวรรษ เครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา (CDN) ของอาลีบาบาคลาวด์ก็ได้ย้ายออกจากการเร่งความเร็วแบบเดิม เพื่อค่อย ๆ สร้างระบบการป้องกันสามมิติโดยใช้เครือข่ายความปลอดภัยแบบ Edge-Cloud ระบบนี้ครอบคลุมการส่งผ่านที่ปลอดภัยแบบ End-to-End, ป้องกันการโจมตีทั่วไปบนโหนด, การปรับใช้ทรัพยากรเฉพาะระดับองค์กร, O&M และการป้องกันความปลอดภัยของเนื้อหา CDN จะช่วยสร้างช่องทางที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ระหว่างองค์กรและอินเทอร์เน็ต ความสามารถด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลแบบ End-to-End การป้องกันเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง เนื่องจากสถาปัตยกรรมแบบกระจายของ CDN ผู้ใช้สามารถรับเนื้อหาได้จากการเข้าถึงโหนดใกล้เคียงซึ่งสามารถซ่อนที่อยู่ IP ต้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดแรงกดดันของการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง ในกรณีที่มีการโจมตีทางไซเบอร์ขนาดใหญ่โหนดที่ใกล้เคียงจะทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันแรกและกระจายความรุนแรงของการโจมตีออกไปอย่างมีนัยสำคัญ แม้ในกรณีของการส่งคำขอ (Request) ที่เป็นอันตรายต่อเนื้อหาแบบไดนามิก ระบบการจัดตารางเวลาอัจฉริยะของ CDN จะช่วยลดแรงกดดันบนเซิร์ฟเวอร์ต้นทางเพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะให้การทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ [/cmsmasters_text][cmsmasters_text shortcode_id=”523j6mjj8v” animation_delay=”0″] ความสามารถในการป้องกันการปลอมแปลง CDN มีความสามารถในการป้องกันการปลอมแปลงระดับองค์กรในรูปแบบ End-to-End สำหรับลิงค์ HTTPS และโหนดข้อมูลเพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยในการส่งข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์ต้นทางกับไคลเอนต์ HTTPS มีการใช้งานเพื่อป้องกันการถูกแฮคจากแหล่งข้อมูลระดับกลางในขณะที่โหนดจะตรวจสอบความสอดคล้องของไฟล์ต้นทาง หากพบว่าเนื้อหาของไฟล์ต้นฉบับไม่สอดคล้องกันไฟล์จะถูกลบและสำเนาต้นฉบับจะถูกดึงออกจากแหล่งที่มาอีกครั้งก่อนที่จะถูกเผยแพร่ โซลูชันที่สมบูรณ์แบบนี้จะให้ความปลอดภัยในการส่งข้อมูลที่สูงขึ้นและรับประกันความปลอดภัยของเนื้อหาบนเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง, ลิงค์, โหนด CDN และไคลเอนต์ การรักษาความปลอดภัยของการเข้าถึงและการตรวจสอบความถูกต้อง CDN สามารถระบุและคัดกรองผู้เข้าใช้งานได้จากการกำหนดค่า ผู้แนะนำ, ผู้ใช้งาน-เอเจนต์ และบัญชีดำที่อยู่ IP หรือรายชื่อผู้ใช้งานที่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างปลอดภัย คุณยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเข้ารหัสลับเพื่อการเข้าถึง URL เพื่อการป้องกันการใช้งานฮอตลิงค์ขั้นสูงและปกป้องทรัพยากรบนเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง ในขณะเดียวกันฐานข้อมูล IP Reputation ถูกสร้างขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการเข้าถึงที่อยู่ IP ที่อยู่ในบัญชีดำ การรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรช่วยป้องกันการโจมตีทั่วไป ในปี 2019 Alibaba Cloud Security ตรวจพบการโจมตี Distributed Denial Of Service (DDos) บน off-premise เกือบล้านครั้ง การโจมตี DDoS ในชั้นแอปพลิเคชัน เช่น การถูกโจมตีในรูปแบบ HTTP Flood ได้กลายมาเป็นประเภทการโจมตีในรูปแบบทั่วไปเพียงแต่วิธีการโจมตีอาจมีความหลากหลายและมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเว็บแอปพลิเคชันก็ยังคงมีการโจมตีอยู่เป็นจำนวนมาก ผ่านการรั่วไหลของข้อมูลซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักล่าผลประโยชน์ หรือการโจมตีอื่น ๆ ความปลอดภัยของทุกอุตสาหกรรมและเว็บแอปพลิเคชันจะได้รับการทดสอบอยู่ตลอดเวลาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มเครือข่ายที่โฮสต์การรับส่งข้อมูล ดังนั้น CDN จึงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสามารถด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุด DDoS Scrubbing CDN มอบความสามารถในการป้องกัน DDoS ในชั้นแอปพลิเคชันให้กับองค์กร (ความสามารถในการป้องกันการโจมตีด้วย HTTP ในรูปแบบ Flood) บนโหนด ความสามารถนี้จะสามารถตรวจสอบที่อยู่ IP, เฮดเดอร์และพารามิเตอร์ URL, รวบรวมสถิติเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, รหัสสถานะและวิธีการส่งคำขอ, และสกัดกั้นคำขอการเข้าถึงที่เป็นอันตราย ในที่นี้ CDN สามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพว่าการเข้าถึงสำหรับธุรกิจนั้นจะสามารถเข้าถึงได้ตามปกติและจะไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อป้องกันการโจมตี DDoS ในชั้นเน็ตเวิร์ค CDN สามารถเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ Anti-DDoS ในสถานการณ์การกระจายสามารถใช้ CDN สำหรับการกระจายได้ และเมื่อเกิดการโจมตี DDoS  พื้นที่เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะถูกตรวจพบและจะทำการโจมตีต่อการเข้าถึงที่วิ่งเข้ามาใน Anti-DDoS Scrubbing Center เพื่อปกป้องเซิร์ฟเวอร์ต้นทางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ โซลูชันการเชื่อมโยงนี้สามารถขัดการจราจรDDoSปริมาณสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการโจมตีแบบน้ำท่วมเช่นSyn,ACK, ICMP, UDP, NTP, SSDP, DNSและHTTP ขึ้นอยู่กับความสามารถในการประมวลผลและอัลกอริทึมการเรียนรู้ลึกของแพลตฟอร์มalibaba Cloud apsaraการคาดการณ์การโจมตีDDoSอัจฉริยะถูกนำมาใช้เพื่อสลับการจราจรไปยังโปรต่อต้านDDoSได้อย่างราบรื่นโดยไม่มีผลต่อเวิร์กโฟลว์ทางธุรกิจในชีวิตประจำวัน โซลูชันการเชื่อมโยงนี้สามารถจัดการรับส่งข้อมูล DDoS ที่มีปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการโจมตีรูปแบบ Flood เช่น SYN, ACK, ICMP, UDP, NTP, SSDP,

admin mfec

admin mfec

เปิดตัวซูเปอร์เน็ตเวิร์คของอาลีบาบาผู้อยู่เบื้องหลัง Double 11, 2019

ในปี 2019 เทศกาลช้อปปิ้งระดับโลกประจำปีหรือที่เรียกว่า Double11 ได้ถูกเรคคอร์ด Gross Merchandise Volume (GMV) เป็นจำนวนกว่า 268.4 พันล้าน RMB ซึ่งนอกเหนือจากผู้บริโภคในประเทศแล้ว Double 11 ยังดึงดูดผู้บริโภคในต่างประเทศจำนวนมากซึ่งทำให้เป็นเทศกาลช้อปปิ้งระดับโลกอย่างแท้จริง ในปีนี้กลุ่มของประเทศผู้ใช้งาน Double11 สูงสุดทั้ง 10 อันดับประเทศในภูมิภาคที่อยู่นอกเขตประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ตาม GMV ได้แก่ ฮ่องกง (จีน), ไต้หวัน (จีน), สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สหราชอาณาจักร, มาเก๊า (จีน) และแคนาดา ด้วยฐานผู้ใช้งานทั่วโลกที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายทางด้านเทคโนโลยีเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์การช็อปปิ้งอย่างราบรื่น และในเหตุการณ์ล่าสุดของ Double 11 ปรากฏว่าอาลีบาบาสามารถกล่าวถึงความท้าทายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขั้นตอนที่1) สร้างเครือข่ายทั่วโลก  อาลีบาบา กรุ๊ป ได้มีการปรับใช้กลุ่มคลาวด์ส่วนตัวเสมือนจริง(VPCs) สำหรับอาลีบาบาคลาวด์ในหลาย ๆ ภูมิภาค รวมทั้ง Zhangjiakou, เซี่ยงไฮ้, เซินเจิ้น, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา โดยใช้ที่อยู่IPแบบยืดหยุ่น (EIP)ในเครือข่าย BGP แบบ multi-lined ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วในบริเวณใกล้เคียง กล่าวอีกนัยหนึ่งการปรับใช้งาน EIP บนอาลีบาบาในหลาย ๆ ภูมิภาคจะช่วยผลักดันเครือข่ายให้อยู่ใกล้กับผู้ใช้งานเพื่อการบริการเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก นอกจากนี้ เครือข่ายคลาวด์สำหรับองค์กร  (CEN) ของอาลีบาบาคลาวด์ สามารถให้อาลีบาบา กรุ๊ป เชื่อมต่อเครือข่ายในภูมิภาคต่างๆ ผ่านการเชื่อมต่อระหว่างกันที่มีประสิทธิภาพสูงโดยเฉพาะเพื่อสร้างเครือข่ายองค์กรส่วนตัวทั่วโลก ด้วย EIP และ CEN อาลีบาบาสามารถสร้างเครือข่ายสำหรับองค์กรทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพสูง,ปลอดภัย,และมีความสอดคล้องของการทำงานได้อย่างรวดเร็ว เครือข่ายองค์กรทั่วโลกนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้จากสถานที่ที่ใกล้เคียงกับแหล่งที่อยู่ของพวกเขาผ่านทางอินเทอร์เน็ต   การเชื่อมต่อทางกายภาพของ CEN และ เซิร์ฟเวอร์หลักและฐานข้อมูลของระบบ เครือข่ายสำหรับองค์กรจะมอบการทำงานที่ให้ความหน่วงที่ต่ำพร้อมทั้งให้การเชื่อมต่อที่มีคุณภาพสูงในรูปแบบเรียลไทม์ ขั้นตอนที่2) สร้างศูนย์ข้อมูลเสมือนในรูปแบบ Hyperscale บนระบบคลาวด์ เพื่อจัดการกับคำขอและการเข้าถึงอย่างพร้อมกันในช่วง Double11 อาลีบาบาจำเป็นต้องปรับใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพนอกเหนือจากเครือข่ายระดับโลกระดับ Tbps หากคุณต้องการใช้ศูนย์ข้อมูลรูปแบบดั้งเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว คุณจะต้องจัดหาเซิร์ฟเวอร์ทางกายภาพเป็นจำนวนมากมาติดตั้งวางไว้บนชั้นวาง เปิดเครื่อง และกำหนดค่าทีละตัว และอาจใช้ระยะเวลาในการปรับใช้งานเป็นเวลาหลายเดือน  ด้วย VPC อาลีบาบาสามารถที่จะสร้างสภาพแวดล้อมของเครือข่ายแยกสำหรับผู้ใช้งานอาลีบาบาคลาวด์และสามารถปรับใช้งานหน่วยประมวลผลแบบยืดหยุ่น (ECS) เป็นจำนวนนับหมื่นอินสแตนซ์ สำหรับผู้ใช้งาน VPCs  ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง Double11 อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ใช้งาน VPCs หลายอัตราในหลายๆ ภูมิภาค โดยมี VPC ที่ใหญ่ที่สุดทำหน้าที่สนับสนุนอินสแตนซ์ ECS เป็นจำนวนนับล้านรวมไปถึงกลุ่มคอนเทนเนอร์ VPC ขนาดใหญ่ทำหน้าที่เป็นสมองในการประมวลผลปริมาณงานของเทศกาล Double 11ได้อย่างน่าทึ่ง การดำเนินการทั้ง 2 ขั้นตอนก่อนหน้านี้ อาลีบาบาได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถให้การสนับสนุนการเข้าถึงและการใช้งานได้อย่างมหาศาลในเทศกาล Double11 และตอนนี้จะขอนำทุกท่านเข้าสู่เทคโนโลยีเฉพาะและรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ที่อยู่ IP แบบยืดหยึ่ย (EIP)  บริการ EIP ในระบบคลาวด์ มีที่อยู่ IP สาธารณะและแบนด์วิทด์เครือข่ายสาธารณะ อาลีบาบาคลาวด์ใช้ multi-line BGP แบนด์วิทด์ เป็นเครือข่ายสาธารณะสำหรับค่าเริ่มต้น Multi-line BGP แบนด์วิทด์หมายถึงการเชื่อมต่อแบนด์วิทด์ที่อาลีบาบาคลาวด์ได้รับจากหลายผู้ให้บริการโดยตรง ผู้ให้บริการแต่ละรายถือเป็นการเชื่อมต่อทางกายภาพ โดยที่อยู่ IP

admin mfec

admin mfec

Alibaba Cloud ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud Technology

หากคุณกำลังวางแผนที่จะสร้างสถาปัตยกรรมในรูปแบบ multi-Cloud หรือพิจารณาใช้บริการ Alibaba Cloud บทความนี้จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจผลิตภัณฑ์และบริการของ Alibaba Cloud ได้ดียิ่งขึ้น ในบทความเปรียบเทียบนี้มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที เช่น วิศวกร, สถาปนิก, ผู้ที่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์และบริการจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายอื่นๆ เพื่อให้สามารถประเมินความแตกต่างของข้อเสนอบนระบบคลาวด์ของอาลีบาบา และเพื่อให้เข้าใจในบริการระบบคลาวด์ของอาลีบาบามากยิ่งขึ้น โดยเปรียบเทียบระหว่าง Alibaba Cloud กับ Amazon Web Services (AWS) ในแง่ของข้อเสนอผลิตภัณฑ์ คุณลักษณะและสถาปัตยกรรมโซลูชัน ในปัจจุบันการประมวลผล การเก็บข้อมูล เครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา (CDN) และผลิตภัณฑ์การรักษาความปลอดภัย ก็มีให้บริการผ่านผู้ให้บริการทั้งสองรายนี้ ด้วยบทความการเปรียบเทียบนี้เราหวังว่าจะเปิดเผยความคล้ายคลึงกันและความแตกต่างระหว่างแพลตฟอร์มคลาวด์ ทั้งสองแพลตฟอร์มเกี่ยวกับแนวคิด คำศัพท์และการใช้งานจริง การเปรียบเทียบการบริการระหว่าง Alibaba Cloudและ AWSตารางต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นถึงแผนที่การเปรียบเทียบการให้บริการแบบตัวต่อตัวระหว่าง AWS และ Alibaba Cloud (International Portal) Compute Description AWS Alibaba Cloud Virtual Servers Elastic Compute Cloud (EC2) Elastic Compute Service (ECS) GPU Servers EC2 Elastic GPUs Elastic GPU Service (EGS) Auto Scale Auto Scaling Auto Scaling Container Management Elastic Container Service (ECS) Container Service Storage & CDN Description AWS Alibaba Cloud Object Storage Amazon Simple Storage Services (S3) Object Storage Service (OSS) NoSQL Database DynamoDB ,SimpleDB Table Store Content Delivery CloudFront Alibaba Cloud CDN Shared File Storage Elastic File System (EFS) Network Attached Storage (NAS) Networking Description AWS Alibaba Cloud Networking Virtual Private Cloud (VPC) Virtual Private Cloud (VPC) Dedicated Network Direct Connect Express Connect NAT Gateway NAT Gateway NAT Gateway Load Balancing Elastic Load Balancing

admin mfec

admin mfec

MFEC x Cisco ยกขบวนโปรโมชันพิเศษสำหรับช่วง Work from Home

MFEC จับมือ Cisco ยกขบวนโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้า ในช่วง Work from Home ให้ทุกคนทำงานได้อย่างปลอดภัยในทุกที่ทุกเวลา (Secure Remote Worker Special Promotion) Cisco Duo ได้รับการออกแบบมาให้ง่ายและคล่องตัว ในการเข้าสู่ระบบ สำหรับผู้ใช้ แอปพลิเคชันทุกประเภท ด้วยการให้บริการรูปแบบคลาวด์ ทำให้สามารถผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่มีอยู่ของคุณได้อย่างง่ายดาย Multi-factor authentication จาก Cisco Duo ปกป้องแอปพลิเคชันของคุณ ด้วยการตรวจสอบ Second source เช่น Smartphone หรือ Token เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้ก่อนเข้าถึงระบบ Cisco AnyConnect เพิ่มขีดความสามารถในการทำงานจากภายนอก ด้วยการเข้าถึงเครือข่ายองค์กรจากทุกอุปกรณ์ได้ทุกที่ทุกเวลา และยังปลอดภัยสำหรับต่อองค์กร สามารถป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตสามารถเข้าถึงเครือข่ายได้ รับรองการทำงานแบบ Multi Factor Authentication (MFA) ของ Duo เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้ และด้วย Cisco Umbrella Roaming คุณสามารถเพิ่มการป้องกันเมื่อผู้ใช้ไม่เชื่อมต่อ VPN สัมผัสประสบการณ์ที่ผสมผสานการใช้อุปกรณ์ทั้งในและนอกองค์กร โดยไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากทีมไอที ผ่านทางโปรแกรม AnyConnect ด้วยตัวคุณเอง Cisco Umbrella เป็นโซลูชันที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ตระดับ DNS เพื่อบล็อคการเชื่อมต่อไปยังปลายทางของผู้ประสงค์ร้าย โดยให้บริการผ่าน cloud ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิผล การป้องกันความปลอดภัย ด่านแรกของการป้องกันภัยคุกคาม: บล็อค malware, phishing, และ command & control ผ่านทางพอร์ตหรือโปรโตคอลต่างๆ ก่อนที่ภัยคุกคามจะมาถึงคุณ การเห็นและปกป้องได้ทั่วทุกที่: ช่วยให้สามารถมองเห็นและปกป้องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของอุปกรณ์ทั้งหมดบนระบบเครือข่ายของคุณทั้งที่อยู่ในสำนักงานและผู้ใช้ที่ทำงานนอกสถานที่ ผสมผสานกับสิ่งที่มีอยู่: สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือเดิมที่มีอยู่ และช่วยให้ข้อมูลครบถ้วนยิ่งขึ้น ระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันนี้ถึง 1 กรกฏาคม 2563สนใจติดต่อ : secure-remote-worker@mfec.co.th

admin mfec

admin mfec