Skip links
View
Drag

Testimonial

The New Lifestyle Banking ยกระดับความ Cool ด้วย SCB EASY

นาทีนี้คงหนีไม่พ้นความฮอตของฟังก์ชั่น “กดเงินไม่ใช้บัตร” จากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่สามารถยึดครองพื้นที่สื่อทั่วฟ้าเมืองไทยกับการเปิดตัวสุดอลังการของโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน SCB EASY ที่ยกระดับความคูลเป็นเวอร์ชั่น 3.0 รองรับทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง กับการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท พัฒนา Digital Platform แอปพลิเคชัน SCB EASY ที่ #เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด อาทิ Data Analytics Stack,  API Gateway และ Microservices Architecture ฯลฯ เพื่อระบบที่มีความปลอดภัยสูงสุด รองรับการเติบโตของผู้ใช้ ตลอดจนความเสถียรในการให้บริการ พร้อมก้าวขึ้นเป็น ผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งอันดับ 1 ของประเทศ และตั้งเป้าจำนวนลูกค้าผู้ใช้แอปพลิเคชันกว่า 8 ล้านราย จากปัจจุบัน 4 ล้านราย รวมถึงฟีเจอร์เด็ดที่สื่อต่างๆ พูดถึงใน แอปพลิเคชัน SCB EASY อาทิ Cardless ATM สามารถกดเงินสดได้โดยไม่ต้องใช้บัตร Easy App Protection ที่นอกจากระบบความปลอดภัยบนแอปพลิเคชัน ไทยพาณิชย์ยังสร้างความมั่นใจด้วยการคุ้มครองความเสียหายวงเงินสูงสุด 1 แสนบาท คุณธนา เธียรอัจฉริยะ รักษาการ Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ ยังกล่าวในงานถึงการเปิดตัวแอปพลิเคชัน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 ว่า “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ภายในสิ้นปีนี้จะยังมีฟีเจอร์ใหม่และความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจในการนำเสนอบริการอื่น เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และด้วยสถาปัตยกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ของเราจะทำให้เราสามารถเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว” Why Microservices Architecture? ตลอดระยะเวลา 10 เดือนกับความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีระดับแนวหน้ามาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน SCB EASY โฉมใหม่ในครั้งนี้ คุณธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน Digital Banking ได้กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกสถาปัตยกรรม  Microservices Architecture  เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ดังกล่าวว่า “ไม่ใช่แค่ดีระดับประเทศ แต่ดีที่สุดในโลก ด้วยโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่จะแยกระบบบริการต่างๆ เป็นส่วนๆ เพื่อรองรับการขยายบริการที่สามารถเพิ่มเติมฟังก์ชั่นได้อย่างเป็นอิสระและไม่ซับซ้อน สามารถเลือกปรับปรุงเฉพาะส่วน ไม่ต้องมารวมทุกอย่างไว้ที่ศูนย์กลางเดียวเหมือนอย่างที่ผ่านมา” ทั้งนี้ ไทยพาณิชย์ย้ำชัดว่า การพัฒนาโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน SCB EASY ในครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของการให้บริการทางการเงินที่ช่วยยกระดับภาพรวมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการเงินธนาคารของประเทศให้ทันต่อการแข่งขันในยุคดิจิทัลที่คู่แข่งขันในตลาดไม่ใช่แค่ธนาคารด้วยกันเองอีกต่อไป ท้ายที่สุด MFEC ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในทีมพัฒนาแอปพลิเคชัน SCB EASY และยังเป็นบริษัทพาร์ทเนอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยความสัมพันธ์อันยาวนานและอยู่เคียงข้างในทุกย่างก้าวแห่งความสำเร็จ ขอแสดงความยินดีกับเสียงตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวแอปพลิเคชัน SCB EASY ด้วยยุทธศาสตร์สำคัญ ในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อมุ่งสู่การเป็น The Most Admired Bank

admin mfec

admin mfec

รู้ยัง…บัตรเดบิตหายทำใหม่ง่ายๆ ผ่านมือถือ 7 วันส่งถึงบ้าน

K PLUS อันดับ 1 โมบายแบงค์กิ้ง   รางวัล “THE BEST MOBILE BANKING PROJECT” จาก The Asian Banker เป็นเครื่องการันตี ให้กับธนาคารกสิกรไทยในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมด้าน Mobile Banking  และ MFEC ในฐานะผู้พัฒนา Application ที่ผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณา ในเรื่องของข้อเสนอ  ความสะดวกในการสมัครใช้บริการ ประโยชน์ตามความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงความปลอดภัย ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น มีผู้ใช้งานสมาร์ทแอพพลิเคชั่นทางการเงินนี้ กว่า 3 ล้านราย เป็นข่าวดังเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุดทางแบงค์กสิกร ไม่หยุดเติมความ “ง่าย” ให้กับลูกค้าด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายในการออกบัตรเดบิต ตอบรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ให้ลูกค้าสามารถสมัครบัตรเดบิตใหม่ผ่านแอพพิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS โดยไม่ต้องไปสมัครที่สาขา เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะสมัครบัตรใหม่ ต่ออายุบัตร หรือบัตรสูญหาย สามารถทำได้ทันที K PLUS  “ความง่าย” ที่น่าภูมิใจ MFEC ในฐานะบริษัทพาร์ทเนอร์ของธนาคารกสิกรไทย รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค และได้รับความสนใจจาก  The Asian Banker  ทำการเก็บข้อมูลจากข่าวสาร ข้อเท็จจริงและความเคลื่อนไหว ของวงการ  Mobile Banking  ทั่วเอเชีย ก่อนพิจารณาความเหมาะสม ศึกษาวิธีการสมัครบัตรผ่าน K-Mobile Banking PLUS ได้ที่ https://www.kasikornbank.com/promotion/issue-debitcard-via-KMB อ่านข่าวรางวัล “THE BEST MOBILE BANKING PROJECT” ได้ที่ https://goo.gl/mpbHnC

admin mfec

admin mfec

ตีตั๋วขึ้น KAAN ผ่าน Panda Pass

ณ วันนี้คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัญจลักษณ์พาสุข จำกัด คือ บริษัท Startup สายเอนเตอร์เทนเมนท์ที่ใหญ่ที่สุด และผลผลิตอย่าง KAAN ก็คือ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ Live Show สัญชาติไทยที่อัดแน่นด้วยเทคนิคระดับโลกหลากรูปแบบ ทำให้เชื่อได้ว่าไม่นาน “KAAN” จะกลายเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ใจกลางพัทยา ในขณะที่ “Panda Pass” หรือ Digital Ticket Platform จะขึ้นแท่นเป็นระบบจองตั๋วดิจิทัลน้องใหม่ไฟแรงภายใต้คอนเซ็ปต์ ซื้อง่าย จ่ายคล่อง รองรับการทำงานลักษณะ Member Card, Loyalty Card ในอนาคต New experience for digital ticket Panda Pass เปิดตัวเป็นที่รู้จักในฐานะตัวแทนจำหน่ายบัตรออนไลน์เข้าชม KAAN Show มาครบทั้งตู้ KIOSK และ Automatic Gate รวมถึง RFID Card โดยที่มาที่ไปของระบบจำหน่ายตั๋วน้องใหม่รายนี้ เริ่มต้นจากแนวคิดการสร้างธุรกิจรูปแบบ Co-Investment, Revenue Sharing ของทีมผู้บริหาร MFEC  มุ่งเปลี่ยนมุมมองลูกค้าเป็น Business Partner เน้นการสร้างความเชื่อมโยงในการให้บริการข้ามธุรกิจได้สะดวก และง่ายยิ่งขึ้น MFEC ส่ง Panda Pass ลงสนาม DIGITAL TRANSFORMATION ในยุคที่ดิจิทัลครองเมือง ความท้าทายหนึ่งที่เหล่าผู้ประกอบการทั้งรายย่อยและรายใหญ่ต่างต้องเผชิญคือ แนวทางการปรับตัวอย่างไรให้รอดจาก “Disruptive Technology” และเมื่อปรับตัวได้แล้ว จะใช้เครื่องมือใดมาสร้างโอกาส สร้างการแข่งขันทางธุรกิจ รวมถึงแนวทางการปลดแอกจากการบริหารแบบ “ยึดติด” ไม่ว่าจะเป็นการยึดติดกับกลุ่มลูกค้าเดิมๆ ยึดติดกับสินค้าหรือบริการตัวใดตัวหนึ่งที่เคยทำเงินมหาศาลให้กับองค์กร ซึ่งการยึดติดแบบนั้นมักทำให้คุณต้องสูญเสียโอกาสทองทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย จากข้อมูลข้างต้น MFEC ในฐานะบริษัทไอทีชั้นนำของเมืองไทย ได้จัดตั้งทีมงาน Digital Transformation Services ไว้รองรับสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงการให้บริการ ช่วยคิดค้นนวัตกรรมสินค้า และนวัตกรรมโมเดลทางธุรกิจ เพื่อปฏิรูปองค์กรของลูกค้า ให้เกิดความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นความต่างทาง Technology หรือความต่างในการสร้างความสัมพันธ์ทางการตลาดหรือ Demandใหม่ๆ ระบบ Digital Ticket Platform – Panda Pass >> www.pandapass.asia Kaan Show  >> www.kaanshow.com ติดตามความเคลื่อนไหว MFEC Society ได้ที่ https://www.facebook.com/MFECCareer/

admin mfec

admin mfec

สิ้นสุดเวลาเช้าชามเย็นชาม ด้วยตัวชี้วัดและการประเมินผล สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)

ด้วยยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล  แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนความต้องการยกระดับศักยภาพบุคลากรส่งผลให้สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ สำนักงาน ก.พ.ร. เดินหน้าครั้งสำคัญ นำระบบรายงานและประเมินผลส่วนราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีตัวชี้วัดเป็นพระเอกออกมาใช้ สุนทรี สุภาสงวน ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า ก.พ.ร. มีหน้าที่ดูแล ส่งเสริมและพัฒนาหน่วยงานราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์การมหาชน รวมกว่า 200 หน่วยงาน การนำ “คำรับรองการปฏิบัติราชการ”  และ “การรายงานผลการปฎิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์” มาใช้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวช่วยในการบรรลุเป้าหมายของผลงาน “สมัยก่อนหน่วยงานต่างๆ รายงานกันเข้ามาเป็นกระดาษ ทุกสิ้นปี สำนักงาน ก.พ.ร. แทบล่ม เต็มไปด้วยเอกสารจำนวนมหาศาล ช่วงหลังเราเลยจับมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศอย่าง  MFEC  พัฒนาระบบการรายงานผลการประเมิน  เปลี่ยนจากรายงานบนแผ่นกระดาษมาสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวดเร็วและมีมาตรฐานกว่าในอดีตมาก” ทั้งนี้นอกจากคำรับรองการปฏิบัติราชการที่ทำหน้าที่คล้ายกับสัญญาข้อตกลงในการพัฒนาแล้ว สิ่งสำคัญในการเดินหน้าอย่างมีเป้าหมาย คือ การกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน เกิดประโยชน์ และส่งเสริมการพัฒนาของประเทศตามแนวยุทธศาสตร์ชาติมากที่สุด “ตัวชี้วัดแต่ละหน่วยงานนั้นแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วัดจากเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวใช้จ่าย กระทรวงพาณิชย์ วัดจากปริมาณส่งออกข้าว กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วัดผลจากงานเรื่องวิจัย สำนักนายกรัฐมนตรี วัดผลจากการจัดการเรื่องร้องเรียน กรมควบคุมมลพิษ วัดผลจากการลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ คุณภาพแหล่งน้ำที่ดีขึ้น และปริมาณขยะที่ลดลง ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี วัดจากการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนที่มีต่อการดำเนินงานของรัฐ หรือกระทรวงสาธารณสุขที่ตัวชี้วัดขึ้นอยู่การลดปัญหาโรคสำคัญต่างๆ” สุนทรี กล่าวว่า การกำหนดตัวชี้วัด เริ่มจากปรึกษากับกระทรวงหรือหน่วยงานต้นทาง เพื่อกำหนดเป้าหมายและทิศทาง โดยมีกรอบสำคัญอย่าง ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนแผนแม่บทอื่นๆ รองรับ “กำหนดเป้าหมาย คัดกรองออกมาเป็นตัวชี้วัดหลัก สิ้นปีจะมีการรายงานและประเมินผลซึ่งกำหนดเกณฑ์การวัดระดับความสำเร็จตั้งแต่ 1-5 โดยความสำเร็จคิดจากคุณภาพและปริมาณ ซึ่งผลประเมินจะกลายเป็นตัวสะท้อนการทำงานของข้าราชการและพนักงานที่ผ่านมาตลอดทั้งปี” ทั้งนี้ นอกจากตัวชี้วัดของกระทรวงแล้ว ยังมีตัวชี้วัดร่วมระหว่างกระทรวงด้วย เนื่องจากการพัฒนาต้องมีความเกี่ยวเนื่องกันหลายฝ่าย ตัวอย่างเช่น ในแง่การท่องเที่ยว กระทรวงวัฒนธรรมอาจต้องเข้ามาร่วมในการพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างออกแบบเส้นทางให้มีความพร้อม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นต้องเข้ามาดูเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทั้งหมดจะถูกนำมาคำนวณร่วมกัน คำถามสำคัญคือ พลังของผลประเมินนั้นจะมีมากน้อยเพียงไร ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.พ.ร. บอกว่า “ผลคะแนน” เป็นการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข ยกระดับคุณภาพของหน่วยงานต่อไป “เปรียบเสมือนท่าว่ายน้ำ มีทั้งท่ายาก ท่าง่าย กระทรวงบางแห่งอย่างกระทรวงการคลัง แน่นอนว่า นอกจากความสามารถของบุคลากรแล้วยังต้องเผชิญหน้ากับปัจจัยความไม่แน่นอนอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดนั้นมีประโยชน์ต่อการพัฒนามาก  ผลของมันวันนี้มีผลต่อการกำหนดอนาคตให้ดียิ่งขึ้น” ผู้ช่วยเลขาธิการฯ ทิ้งท้ายว่า โลกปัจจุบันและความสามารถของเทคโนโลยี กำลังผลักดันให้เหล่าข้าราชการต้องปรับตัว และให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดมากขึ้น เพื่อยกระดับความก้าวหน้าของตนเองและประเทศชาติ ขณะที่ ก.พ.ร. เองก็จะพยายามเร่งพัฒนา สร้างตัวชี้วัดที่สะท้อนความเป็นจริงสื่อถึงเป้าหมายของการปฎิบัติงานมากที่สุด เนื่องจากเข้าใจดีว่า การบริหารงานที่ขาดตัวชี้วัดหรือมีตัวชี้วัด ที่ไม่เหมาะสมจะทําให้ผู้บริหารและบุคลากรไม่ทราบข้อเท็จจริงหรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะนําไปสู่ความล้มเหลวของการดําเนินงานได้ “หน่วยงานไหนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ก็จำเป็นต้องทำแผนปรับปรุง  เปลี่ยนภาพเช้าชามเย็นชาม ไม่ได้ทำงานไปวันๆ แต่คิดถึงผลลัพธ์ในการดำเนินงานเสมอ” สุนทรี กล่าว

admin mfec

admin mfec

FanSter แอพฯ เชื่อมรักแฟนคลับกับศิลปิน

MFEC เดินหน้าตอกย้ำภาพเบอร์ 1 ด้าน Mobile Application ด้วยการจับมือค่ายเพลงรักอย่าง LOVEiS  ดัน FanSter Application ลงสนามสร้างปรากฎการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่ให้กับวงการแฟนคลับเมืองไทย วันนี้แอพพลิเคชั่นสุดคูล FanSter พร้อมอวดโฉมให้คนทั้งประเทศได้ทำความรู้จักอย่างเป็นทางการ โดยมีคลื่นวิทยุดังอย่าง Cat Radio จูงมือเข้าวงการ จับคู่โปรโมทไปกับเทศกาลอาหารอร่อยหู 1 เมนู 1 ศิลปิน. “It’s Me Cat Foodival”  ในวันเสาร์ ที่ 1 กรกฎาคม 2560 ณ แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีมักกะสัน  บัตรเข้างานราคาเพียง 300 บาท พิเศษเพียงโชว์แอพพลิเคชั่น FanSter รับส่วนลดทันที 100 บาท  ขายบัตรแล้ววันนี้ที่Thailand Ticket Major  www.thaiticketmajor.com MFEC PS-Solution Delivery ทีมปั้นมือทองแห่งวงการ Mobile App เมืองไทย MFEC PS-Solution Delivery  ทีมงานที่มีความสตรองในเชิงเทคโนโลยีแบบครบวงจร ใช้เวลาทุ่มเทศึกษา วิจัยและพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ร่วมกับทีมงานค่าย LOVEiS ที่แข็งแกร่งในเรื่องการทำ Marketing ช่วยกันปลุกปั้น “Fanster” Social Media Gamification Platform ที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างศิลปินและเหล่าแฟนคลับ รวบรวมเอา Content เด่นๆ กิจกรรมดีๆ และ Mission สนุกๆ ไว้เพียบ นอกเหนือจาก EXCLUSIVE CONTENT  ยังมีของรางวัลสุดแนวจากศิลปินค่าย LOVEiS  และของที่ระลึกจากงาน Cat Foodival อาทิ ผ้ากันเปื้อนเก๋ๆ ที่มีสาววี “วิโอเลต วอเทียร์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ เสื้อยืด CAT RADIO  หรือ ลุ้นโต๊ะหมู่ VIP FanSter กินฟรีอาหารในงาน Cat Foodival  ที่พร้อมเสิร์ฟกว่า 100 ร้าน เรียกได้ว่ามีเงินก็หาซื้อไม่ได้เพราะสิทธิพิเศษนี้ มีไว้เพื่อสมาชิก FansTer เท่านั้น ถ้าเปรียบ Fanster เป็นบทเพลงรักแนวอัลเทอร์เนทีฟ สมาชิกทั้ง 15 คนของทีม MFEC PS-Solution Delivery ได้ทำหน้าที่เรียบเรียง “คำร้องและทำนอง” ไว้ได้อย่างน่าสนใจและน่าฟังมากๆ มันเป็นบทเพลงที่ต่างไปจากแนวเดิมที่ MFEC คุ้นเคยอย่างแนว B2B (Business to Business) แต่วันนี้เราได้พิสูจน์ให้สังคมรับรู้แล้วว่าแนว B2C (Business to Consumer) เราก็ทำได้ดีเช่นกัน [How To]  วิธีติดตั้งและดาวน์โหลดแอพ FanSter เข้าไปที่แอพพลิเคชันPlay Store เลือกเข้าสู่ระบบ หรือ log in เข้าใช้งาน Play Store (สำหรับผู้ที่มีแอคเคาท์อยู่แล้ว) ถ้ายังไม่มีก็สมัคร play storeตามขั้นตอนง่ายๆ เลือกแอพพลิเคชัน FanSter กดดาวน์โหลดและกดติดตั้ง App ใน Play Store

admin mfec

admin mfec