Skip links
View
Drag

Success Stories

The New Lifestyle Banking ยกระดับความ Cool ด้วย SCB EASY

นาทีนี้คงหนีไม่พ้นความฮอตของฟังก์ชั่น “กดเงินไม่ใช้บัตร” จากธนาคารไทยพาณิชย์ ที่สามารถยึดครองพื้นที่สื่อทั่วฟ้าเมืองไทยกับการเปิดตัวสุดอลังการของโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน SCB EASY ที่ยกระดับความคูลเป็นเวอร์ชั่น 3.0 รองรับทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง กับการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท พัฒนา Digital Platform แอปพลิเคชัน SCB EASY ที่ #เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด อาทิ Data Analytics Stack,  API Gateway และ Microservices Architecture ฯลฯ เพื่อระบบที่มีความปลอดภัยสูงสุด รองรับการเติบโตของผู้ใช้ ตลอดจนความเสถียรในการให้บริการ พร้อมก้าวขึ้นเป็น ผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งอันดับ 1 ของประเทศ และตั้งเป้าจำนวนลูกค้าผู้ใช้แอปพลิเคชันกว่า 8 ล้านราย จากปัจจุบัน 4 ล้านราย รวมถึงฟีเจอร์เด็ดที่สื่อต่างๆ พูดถึงใน แอปพลิเคชัน SCB EASY อาทิ Cardless ATM สามารถกดเงินสดได้โดยไม่ต้องใช้บัตร Easy App Protection ที่นอกจากระบบความปลอดภัยบนแอปพลิเคชัน ไทยพาณิชย์ยังสร้างความมั่นใจด้วยการคุ้มครองความเสียหายวงเงินสูงสุด 1 แสนบาท คุณธนา เธียรอัจฉริยะ รักษาการ Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ ยังกล่าวในงานถึงการเปิดตัวแอปพลิเคชัน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 ว่า “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ภายในสิ้นปีนี้จะยังมีฟีเจอร์ใหม่และความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจในการนำเสนอบริการอื่น เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และด้วยสถาปัตยกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ของเราจะทำให้เราสามารถเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว” Why Microservices Architecture? ตลอดระยะเวลา 10 เดือนกับความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีระดับแนวหน้ามาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน SCB EASY โฉมใหม่ในครั้งนี้ คุณธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน Digital Banking ได้กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกสถาปัตยกรรม  Microservices Architecture  เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ดังกล่าวว่า “ไม่ใช่แค่ดีระดับประเทศ แต่ดีที่สุดในโลก ด้วยโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่จะแยกระบบบริการต่างๆ เป็นส่วนๆ เพื่อรองรับการขยายบริการที่สามารถเพิ่มเติมฟังก์ชั่นได้อย่างเป็นอิสระและไม่ซับซ้อน สามารถเลือกปรับปรุงเฉพาะส่วน ไม่ต้องมารวมทุกอย่างไว้ที่ศูนย์กลางเดียวเหมือนอย่างที่ผ่านมา” ทั้งนี้ ไทยพาณิชย์ย้ำชัดว่า การพัฒนาโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน SCB EASY ในครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของการให้บริการทางการเงินที่ช่วยยกระดับภาพรวมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการเงินธนาคารของประเทศให้ทันต่อการแข่งขันในยุคดิจิทัลที่คู่แข่งขันในตลาดไม่ใช่แค่ธนาคารด้วยกันเองอีกต่อไป ท้ายที่สุด MFEC ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในทีมพัฒนาแอปพลิเคชัน SCB EASY และยังเป็นบริษัทพาร์ทเนอร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยความสัมพันธ์อันยาวนานและอยู่เคียงข้างในทุกย่างก้าวแห่งความสำเร็จ ขอแสดงความยินดีกับเสียงตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวแอปพลิเคชัน SCB EASY ด้วยยุทธศาสตร์สำคัญ ในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อมุ่งสู่การเป็น The Most Admired Bank

admin mfec

admin mfec

รู้ยัง…บัตรเดบิตหายทำใหม่ง่ายๆ ผ่านมือถือ 7 วันส่งถึงบ้าน

K PLUS อันดับ 1 โมบายแบงค์กิ้ง   รางวัล “THE BEST MOBILE BANKING PROJECT” จาก The Asian Banker เป็นเครื่องการันตี ให้กับธนาคารกสิกรไทยในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมด้าน Mobile Banking  และ MFEC ในฐานะผู้พัฒนา Application ที่ผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณา ในเรื่องของข้อเสนอ  ความสะดวกในการสมัครใช้บริการ ประโยชน์ตามความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงความปลอดภัย ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น มีผู้ใช้งานสมาร์ทแอพพลิเคชั่นทางการเงินนี้ กว่า 3 ล้านราย เป็นข่าวดังเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุดทางแบงค์กสิกร ไม่หยุดเติมความ “ง่าย” ให้กับลูกค้าด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายในการออกบัตรเดบิต ตอบรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ให้ลูกค้าสามารถสมัครบัตรเดบิตใหม่ผ่านแอพพิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS โดยไม่ต้องไปสมัครที่สาขา เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะสมัครบัตรใหม่ ต่ออายุบัตร หรือบัตรสูญหาย สามารถทำได้ทันที K PLUS  “ความง่าย” ที่น่าภูมิใจ MFEC ในฐานะบริษัทพาร์ทเนอร์ของธนาคารกสิกรไทย รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค และได้รับความสนใจจาก  The Asian Banker  ทำการเก็บข้อมูลจากข่าวสาร ข้อเท็จจริงและความเคลื่อนไหว ของวงการ  Mobile Banking  ทั่วเอเชีย ก่อนพิจารณาความเหมาะสม ศึกษาวิธีการสมัครบัตรผ่าน K-Mobile Banking PLUS ได้ที่ https://www.kasikornbank.com/promotion/issue-debitcard-via-KMB อ่านข่าวรางวัล “THE BEST MOBILE BANKING PROJECT” ได้ที่ https://goo.gl/mpbHnC

admin mfec

admin mfec

ตีตั๋วขึ้น KAAN ผ่าน Panda Pass

ณ วันนี้คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัญจลักษณ์พาสุข จำกัด คือ บริษัท Startup สายเอนเตอร์เทนเมนท์ที่ใหญ่ที่สุด และผลผลิตอย่าง KAAN ก็คือ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ Live Show สัญชาติไทยที่อัดแน่นด้วยเทคนิคระดับโลกหลากรูปแบบ ทำให้เชื่อได้ว่าไม่นาน “KAAN” จะกลายเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่ใจกลางพัทยา ในขณะที่ “Panda Pass” หรือ Digital Ticket Platform จะขึ้นแท่นเป็นระบบจองตั๋วดิจิทัลน้องใหม่ไฟแรงภายใต้คอนเซ็ปต์ ซื้อง่าย จ่ายคล่อง รองรับการทำงานลักษณะ Member Card, Loyalty Card ในอนาคต New experience for digital ticket Panda Pass เปิดตัวเป็นที่รู้จักในฐานะตัวแทนจำหน่ายบัตรออนไลน์เข้าชม KAAN Show มาครบทั้งตู้ KIOSK และ Automatic Gate รวมถึง RFID Card โดยที่มาที่ไปของระบบจำหน่ายตั๋วน้องใหม่รายนี้ เริ่มต้นจากแนวคิดการสร้างธุรกิจรูปแบบ Co-Investment, Revenue Sharing ของทีมผู้บริหาร MFEC  มุ่งเปลี่ยนมุมมองลูกค้าเป็น Business Partner เน้นการสร้างความเชื่อมโยงในการให้บริการข้ามธุรกิจได้สะดวก และง่ายยิ่งขึ้น MFEC ส่ง Panda Pass ลงสนาม DIGITAL TRANSFORMATION ในยุคที่ดิจิทัลครองเมือง ความท้าทายหนึ่งที่เหล่าผู้ประกอบการทั้งรายย่อยและรายใหญ่ต่างต้องเผชิญคือ แนวทางการปรับตัวอย่างไรให้รอดจาก “Disruptive Technology” และเมื่อปรับตัวได้แล้ว จะใช้เครื่องมือใดมาสร้างโอกาส สร้างการแข่งขันทางธุรกิจ รวมถึงแนวทางการปลดแอกจากการบริหารแบบ “ยึดติด” ไม่ว่าจะเป็นการยึดติดกับกลุ่มลูกค้าเดิมๆ ยึดติดกับสินค้าหรือบริการตัวใดตัวหนึ่งที่เคยทำเงินมหาศาลให้กับองค์กร ซึ่งการยึดติดแบบนั้นมักทำให้คุณต้องสูญเสียโอกาสทองทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย จากข้อมูลข้างต้น MFEC ในฐานะบริษัทไอทีชั้นนำของเมืองไทย ได้จัดตั้งทีมงาน Digital Transformation Services ไว้รองรับสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงการให้บริการ ช่วยคิดค้นนวัตกรรมสินค้า และนวัตกรรมโมเดลทางธุรกิจ เพื่อปฏิรูปองค์กรของลูกค้า ให้เกิดความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นความต่างทาง Technology หรือความต่างในการสร้างความสัมพันธ์ทางการตลาดหรือ Demandใหม่ๆ ระบบ Digital Ticket Platform – Panda Pass >> www.pandapass.asia Kaan Show  >> www.kaanshow.com ติดตามความเคลื่อนไหว MFEC Society ได้ที่ https://www.facebook.com/MFECCareer/

admin mfec

admin mfec

สิ้นสุดเวลาเช้าชามเย็นชาม ด้วยตัวชี้วัดและการประเมินผล สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)

ด้วยยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล  แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนความต้องการยกระดับศักยภาพบุคลากรส่งผลให้สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ สำนักงาน ก.พ.ร. เดินหน้าครั้งสำคัญ นำระบบรายงานและประเมินผลส่วนราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีตัวชี้วัดเป็นพระเอกออกมาใช้ สุนทรี สุภาสงวน ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า ก.พ.ร. มีหน้าที่ดูแล ส่งเสริมและพัฒนาหน่วยงานราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์การมหาชน รวมกว่า 200 หน่วยงาน การนำ “คำรับรองการปฏิบัติราชการ”  และ “การรายงานผลการปฎิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์” มาใช้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวช่วยในการบรรลุเป้าหมายของผลงาน “สมัยก่อนหน่วยงานต่างๆ รายงานกันเข้ามาเป็นกระดาษ ทุกสิ้นปี สำนักงาน ก.พ.ร. แทบล่ม เต็มไปด้วยเอกสารจำนวนมหาศาล ช่วงหลังเราเลยจับมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศอย่าง  MFEC  พัฒนาระบบการรายงานผลการประเมิน  เปลี่ยนจากรายงานบนแผ่นกระดาษมาสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวดเร็วและมีมาตรฐานกว่าในอดีตมาก” ทั้งนี้นอกจากคำรับรองการปฏิบัติราชการที่ทำหน้าที่คล้ายกับสัญญาข้อตกลงในการพัฒนาแล้ว สิ่งสำคัญในการเดินหน้าอย่างมีเป้าหมาย คือ การกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน เกิดประโยชน์ และส่งเสริมการพัฒนาของประเทศตามแนวยุทธศาสตร์ชาติมากที่สุด “ตัวชี้วัดแต่ละหน่วยงานนั้นแตกต่างกัน  ตัวอย่างเช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วัดจากเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวใช้จ่าย กระทรวงพาณิชย์ วัดจากปริมาณส่งออกข้าว กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วัดผลจากงานเรื่องวิจัย สำนักนายกรัฐมนตรี วัดผลจากการจัดการเรื่องร้องเรียน กรมควบคุมมลพิษ วัดผลจากการลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ คุณภาพแหล่งน้ำที่ดีขึ้น และปริมาณขยะที่ลดลง ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี วัดจากการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนที่มีต่อการดำเนินงานของรัฐ หรือกระทรวงสาธารณสุขที่ตัวชี้วัดขึ้นอยู่การลดปัญหาโรคสำคัญต่างๆ” สุนทรี กล่าวว่า การกำหนดตัวชี้วัด เริ่มจากปรึกษากับกระทรวงหรือหน่วยงานต้นทาง เพื่อกำหนดเป้าหมายและทิศทาง โดยมีกรอบสำคัญอย่าง ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดจนแผนแม่บทอื่นๆ รองรับ “กำหนดเป้าหมาย คัดกรองออกมาเป็นตัวชี้วัดหลัก สิ้นปีจะมีการรายงานและประเมินผลซึ่งกำหนดเกณฑ์การวัดระดับความสำเร็จตั้งแต่ 1-5 โดยความสำเร็จคิดจากคุณภาพและปริมาณ ซึ่งผลประเมินจะกลายเป็นตัวสะท้อนการทำงานของข้าราชการและพนักงานที่ผ่านมาตลอดทั้งปี” ทั้งนี้ นอกจากตัวชี้วัดของกระทรวงแล้ว ยังมีตัวชี้วัดร่วมระหว่างกระทรวงด้วย เนื่องจากการพัฒนาต้องมีความเกี่ยวเนื่องกันหลายฝ่าย ตัวอย่างเช่น ในแง่การท่องเที่ยว กระทรวงวัฒนธรรมอาจต้องเข้ามาร่วมในการพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างออกแบบเส้นทางให้มีความพร้อม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นต้องเข้ามาดูเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทั้งหมดจะถูกนำมาคำนวณร่วมกัน คำถามสำคัญคือ พลังของผลประเมินนั้นจะมีมากน้อยเพียงไร ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.พ.ร. บอกว่า “ผลคะแนน” เป็นการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข ยกระดับคุณภาพของหน่วยงานต่อไป “เปรียบเสมือนท่าว่ายน้ำ มีทั้งท่ายาก ท่าง่าย กระทรวงบางแห่งอย่างกระทรวงการคลัง แน่นอนว่า นอกจากความสามารถของบุคลากรแล้วยังต้องเผชิญหน้ากับปัจจัยความไม่แน่นอนอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดนั้นมีประโยชน์ต่อการพัฒนามาก  ผลของมันวันนี้มีผลต่อการกำหนดอนาคตให้ดียิ่งขึ้น” ผู้ช่วยเลขาธิการฯ ทิ้งท้ายว่า โลกปัจจุบันและความสามารถของเทคโนโลยี กำลังผลักดันให้เหล่าข้าราชการต้องปรับตัว และให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดมากขึ้น เพื่อยกระดับความก้าวหน้าของตนเองและประเทศชาติ ขณะที่ ก.พ.ร. เองก็จะพยายามเร่งพัฒนา สร้างตัวชี้วัดที่สะท้อนความเป็นจริงสื่อถึงเป้าหมายของการปฎิบัติงานมากที่สุด เนื่องจากเข้าใจดีว่า การบริหารงานที่ขาดตัวชี้วัดหรือมีตัวชี้วัด ที่ไม่เหมาะสมจะทําให้ผู้บริหารและบุคลากรไม่ทราบข้อเท็จจริงหรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะนําไปสู่ความล้มเหลวของการดําเนินงานได้ “หน่วยงานไหนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ก็จำเป็นต้องทำแผนปรับปรุง  เปลี่ยนภาพเช้าชามเย็นชาม ไม่ได้ทำงานไปวันๆ แต่คิดถึงผลลัพธ์ในการดำเนินงานเสมอ” สุนทรี กล่าว

admin mfec

admin mfec

Tags

Venture Lab คว้ารางวัลที่ 1 ในการแข่งขัน Workplace Crisis Hackathon 

ร่วมแสดงความยินดีกับ Venture Lab บริษัทลูกของ MFEC ที่ชนะการแข่งขันในกิจกรรม Workplace Crisis Hackathon ซึ่งจัดโดย PMAT x SOOK (สสส.) เมื่อวันที่ 2-3 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนที่เข้าร่วมการแข่งขันอย่าง คุณเมทีนี โกวิรุฬห์สกุล และ คุณศิวัช โพธิ์ไทร ภายใต้การนำของ Head of Venture Lab คุณตูน โชติมา สิทธิชัยวิเศษ ส่งผลให้ทีมคว้ารางวัลที่ 1 ผ่านโปรเจกต์ Listeny ภายใต้คอนเซ็ปต์ AI for HR (Artificial Intelligence for Human Resources) ที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของแผนกทรัพยากรมนุษย์ในการดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน ตัวแทนทั้งสองของ Venture Lab กล่าวว่า “ทุกวันนี้หลาย ๆ บริษัทก็กำลังเผชิญหน้ากับความเครียดของพนักงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการทำงานที่บ้านและการมีปฏิสัมพันธ์ที่ลดลงกับสมาชิกในองค์กร ทีมของเราจึงคิดไอเดียเพื่อช่วยให้ HR รับรู้ถึงสถานะทางความเครียดของพนักงานได้ทันท่วงที และนำไปต่อยอดในการแก้ไขปัญหาต่อไป” โดยคุณตูน โชติมา ได้เสริมในภาพใหญ่ว่า “Venture Lab พร้อมสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการ Startup มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ผ่านทั้งการร่วมสร้างและร่วมลงทุน” ติดตามโซลูชันและผลงานอื่น ๆ จาก Venture Lab เพิ่มเติมได้ที่: https://www.venturelab.tech/ #MFEC#Venturelab#Hackathon#Startup#PMAT#SOOK

admin mfec

admin mfec

Tags

MFEC ก้าวกระโดดขึ้นสู่ Diamond Partner 
ระดับสูงสุดจาก UiPath ใน RPA Solutions

MFEC ร่วมกับ UiPath เสนอ Robotic Process Automation (RPA Solution) เข้าไปช่วยลดการทำงานซ้ำๆ และปรับการทำงานเหล่านั้นให้เป็นรูปแบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น สืบเนื่องจากในเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมา บริษัท MFEC ได้รับการรับรองให้เป็น Authrorized Gold Partner และได้รับรางวัล Best Automation Program Management Partner 2020 แต่ผ่านไปเพียงไม่นาน เนื่องจากการให้บริการที่ดี และความสามารถในการสร้างความไว้วางใจในการพัฒนา RPA Solution ให้กับลูกค้าได้ ทำให้ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2021 นี้ MFEC ได้ถูกยกระดับให้เป็น “Authrorized Diamond Partner” เป็นการรับรองและยืนยันว่าบริษัท MFEC มีความพร้อมในการพัฒนากระบวนการอัตโนมัติ และเพียบพร้อมด้วยทีมงานที่มีศักยภาพและประสบการณ์ที่สามารถทำให้ลูกค้าพึงพอใจ รวมถึงได้รับประสบกาณ์ที่ดี จากการนำ RPA Solution มาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เรายังได้สร้างแหล่งความรู้ดีๆอย่าง Automation Classroom ใน YouTube และบทความดีๆใน Medium เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับบุคคลทั่วไปที่สนในการทำงานของ RPA Automation Classroom : https://bit.ly/3zyZdf3Medium #MFECRPA : https://bit.ly/3jAXTCI ทั้งนี้ หากท่านใดสนใจข้อมูลของ RPA Solution สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ps-bsm@mfec.co.th #MFECxUiPath#MFEC#DiamondPartner#Uipath#RPA

admin mfec

admin mfec

Tags

MFEC ได้รับการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2564

บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ได้รับการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2564 จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ซึ่งได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ดำเนินการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2564 โดยสามารถคว้าคะแนนการประเมินไปได้ถึงร้อยละ 98 การจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1 ประจำปี 2564 เป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) โดยจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากประสบกับสภาวะวิกฤต Covid-19 ในปีที่ผ่าน ทีมงานได้มีการพัฒนารูปแบบการประชุมให้สอดคล้องกับวิถี New Normal เพื่อป้องกันความเสื่ยงของการแพร่ระบาด โดยยังคงยึดถือแนวปฏิบัติตามหลักเกณ์ข้อบังคับและหลักปฏิบัติของธรรมาภิบาลที่ดี สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกหน่วยงานใน MFEC ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี พร้อมให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการพัฒนาในด้านการกำกับดูแลกิจการอย่างต่อเนื่อง จากการร่วมมือระหว่างคณะผู้บริหารกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถทำงานสอดประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้ตามเป้าหมาย #MFEC#AGM2021#AGM#ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี2564

admin mfec

admin mfec

Tags

MFEC เลื่อนขั้นเป็น Google Cloud Premier Partner พาร์ทเนอร์ระดับสูงสุดของ Google Cloud

ภายในระยะเวลา 3 ปีหลังจากเข้าร่วมโปรแกรม Google Cloud Partner Advantage ในฐานะพาร์ทเนอร์ MFEC ได้เลื่อนขั้นเป็น Premier Partner ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ระดับสูงสุดของ Google Cloud นี่เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อผลักดัน MFEC สู่การเป็นอันดับหนึ่งของผู้ให้บริการวางระบบในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทยเพื่อยกระดับชีวิตดิจิทัลของทุกๆ คน ผ่านความตั้งใจที่จะส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้า ตามที่ได้วางเป้าหมายเอาไว้⠀⠀⠀⠀⠀⠀ก่อนที่จะได้รับสถานะ Premier Partner ทั้งในรูปแบบของการขายและการให้บริการนั้น MFEC ได้แสดงศักยภาพทางเทคนิคและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันบน Google Cloud ด้วยการมีใบรับรองความสามารถด้านการขายและด้านเทคนิคอย่างน้อย 20 รายการ รวมถึงใบรับรองความสามารถด้านเทคนิคระดับมืออาชีพ (professional-level certificate) อย่างน้อย 12 ใบ พร้อมทั้งต้องมีตัวบ่งชี้ความสำเร็จของลูกค้าจากการส่งเรื่องราวความสำเร็จของลูกค้าที่ใช้ Google Cloud อย่างน้อย 3 เรื่อง นอกจากนี้ MFEC ยังได้มีการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจประจำปี (joint business plan) ร่วมกันกับ Google Cloud อีกด้วย ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาโซลูชันบน Google Cloud มาหลายปี เราจึงสามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างดี⠀⠀⠀⠀⠀⠀ที่สำคัญไปกว่าการได้สถานะ Premier Partner นั้น คือสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าของ MFEC จะได้รับ เช่นโปรโมชันที่น่าสนใจและประสบการณ์การใช้งาน Google Cloud ที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านเทคนิค บริการให้ชำระค่าบริการภายในประเทศ การพัฒนาโซลูชัน ไปจนถึงการสนับสนุนหลังการขาย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากสถานะ Premier Partner ช่วยให้เราเข้าถึงสิทธิประโยชน์ด้านการขาย ความร่วมมือในด้านการตลาด และการสนับสนุนด้านการฝึกอบรมด้านเทคนิคในระดับที่สูงขึ้นได้นั่นเอง⠀⠀⠀⠀⠀⠀สถานะ Premier Partner ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของ MFEC แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเป็นพาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของเรากับ Google Cloud เพื่อให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เราดำเนินภารกิจในการยกระดับชีวิตดิจิทัลของทุกๆ คนให้เกินความคาดหมายได้ต่อไปได้อย่างยั่งยืน

admin mfec

admin mfec

Tags

MFEC คว้าการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” 2 ปีซ้อน

บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies : Excellent CG Scoring) ประจำปี 2563 ระดับ “ดีเลิศ” ถือเป็นระดับสูงสุดของการประเมิน จาก 692 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จากผลการประเมินสะท้อนภาพการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส และให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม รวมทั้งเป็นแบบอย่างขององค์กรซึ่งมีจรรยาบรรณที่ดีในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

admin mfec

admin mfec

Tags

MFEC คว้า 2 รางวัล จาก Microsoft Thailand Partner Award 2020

MFEC รับมอบ 2 รางวัลใหญ่จาก Microsoft Thailand Partner Award 2020 “Azure Customer Success Partner of the Year 2020 – Data & AI” และ “Microsoft Licensing Solution Provider (LSP) of the Year 2020” ⠀⠀⠀คว้ารางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้วกับรางวัล “Azure Customer Success Partner of the Year 2020 – Data & AI” ตอกย้ำความเป็นหนึ่งด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญทีม Data Analytics Platform ที่แสดงถึงศักยภาพการเป็นผู้นำด้าน Data & AI ของ MFEC กับ Microsoft Azure และอีกหนึ่งรางวัลที่ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 กับรางวัล “Microsoft Licensing Solution Provider (LSP) of the Year 2020” ผู้ให้บริการ Microsoft Licensing Solution แบบครบวงจรพร้อมรองรับการทำงานของลูกค้าองค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

admin mfec

admin mfec