Skip links
View
Drag

MFEC Update

MFEC ต้อนรับพนักงานกลับสู่ออฟฟิศ 25% (ของพื้นที่สำนักงาน)

ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ในปัจจุบัน มีอัตราผู้ติดเชื้อลดลงเป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งการประกาศผ่อนปรนระยะที่ 3 โดยให้กิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูงกลับมาเปิดให้บริการได้ ขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้า ปรับลดเวลาเคอร์ฟิว และอนุญาตให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้หากมีความจำเป็น MFEC ได้มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดมาตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีทีม BCP ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และประกาศข่าวสารต่างๆ ให้พนักงานได้รับทราบและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังได้มีการประกาศให้ Work from Home ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา หลังจากที่สถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง MFEC ได้ทำการเปิดสำนักงานให้พนักงานทยอยกลับเข้ามาทำงานได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน โดยมีการกำหนดค่าความหนาแน่นของพนักงานในการเข้าใช้พื้นที่ อยู่ที่ 25% จากจำนวนพนักงานทั้งหมดในแต่ละชั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากกลับเข้ามาทำงาน รวมไปถึงยังคงให้พนักงานปฏิบัติตนภายใต้มาตรการป้องกันตนขั้นสูงสุด โดยมีแนวทาง ดังนี้ มีการแบ่งพนักงานเข้าสำนักงานไม่เกิน 25% ของพื้นที่ โดยมีทีม BCP ออกประกาศแนวทางการเฝ้าระวังความหนาแน่นของพนักงานภายในบริเวณสำนักงานทุกวันศุกร์ กำหนดให้มีการรายงานข้อมูลรายสัปดาห์ ทีม BCP รายงานสถานการณ์เฝ้าระวังไวรัส Covid-19 ประจำวันของแต่ละสำนักงานทุกวัน พนักงานกรอกแบบฟอร์มรายงานสุขภาพประจำวันผ่านแอปพลิเคชัน MPY มีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาคารสำนักงาน Social Distancing นั่งทำงานห่างกัน 1-2 เมตร หรือเว้นระยะเก้าอี้หนึ่งตัว ล้างมือและทำความสะอาดบริเวณที่นั่งด้วยแอลกอฮอล์บ่อยครั้ง ใช้การประชุมออนไลน์ งดการประชุมหรือพบปะหน้ากันโดยตรง ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์กว่าๆ ที่พนักงานทยอยกลับเข้ามาทำงาน บรรยากาศภายในออฟฟิศยังไม่พบความหนาแน่นจนเกินไป หากผลที่ออกมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแนวโน้มสถานการณ์การระบาดภายในประเทศลดลง ทางบริษัทจะเพิ่มค่าความหนาแน่นเป็น 50% โดยจะมีการประกาศให้พนักงานรับทราบทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลง การกลับมาทำงานประจำสำนักงาน พนักงานทุกคนต้องเพิ่มความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀จากการที่พนักงานบางส่วนกลับเข้าทำงานที่สำนักงานและบางส่วนที่ยังคง Work from Home ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด บริษัทยังคงดำเนินกิจการและให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพนักงานยังคงดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่บริการให้คำปรึกษา ดูแลลูกค้า ไปจนถึงบริการหลังการขาย MFEC ยังคงรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานที่ดีเหมือนที่แล้วมา

admin mfec

admin mfec

Tags

TDRI EIS Live On-Line Briefing

แม้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ได้มีการประกาศเลื่อนกำหนดระยะเวลาบังคับใช้ของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือ PDPA ออกไปเป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2565 แต่ทุกภาคส่วนก็ยังต้องเตรียมความพร้อมรับมือต่อกฎหมาย ตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงภาคธุรกิจขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อนำมาปรับใช้และปรับตัวให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ⠀⠀ วันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา คุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร (CEO, MFEC) ได้รับเกียรติจาก TDRI-EIS เข้าร่วม TDRI EIS Live On-Line Briefing พูดคุยในหัวข้อ ” Preparing for PDPA Implementation: Myths and Realities” ร่วมกับ ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ (TDRI) ดร. กิริดา ภาพิชิต (TDRI) ดร. สุนทรี ส่งเสริม (DES) คุณอนุสรา โชควณิชพงศ์ (Lotus’s) และคุณอาภาธร ราชชุมพล (SCB) เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้งาน PDPA⠀⠀ การพูดคุยในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม PDPA พร้อมยกตัวอย่างกรณีศึกษาของบริษัทต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการเตรียมความพร้อม และการสร้างความเข้าใจให้กับพนักงานในแต่ละองค์กร โดยกฎหมาย PDPA อาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดปัญหาให้กับธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่ยังไม่ได้ดำเนินการอยู่บนดิจิทัล จึงควรเกิดการ Transformation องค์กรก่อนที่จะกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในการดำเนินธุรกิจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือ PDPA ยังมีกฎหมายย่อยอีกหลายๆ ส่วนที่รอการสรุปที่ชัดเจน ดังนั้นผู้ดำเนินธุรกิจจึงต้องคอยติดตามและศึกษาข้อมูลกฎหมายอย่างละเอียด ผลของกฎหมาย PDPA ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองความปลอดภัยข้อมูลมากยิ่งขึ้น ต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยเพราะไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสี่ยงที่บานปลายขึ้นได้

MFEC

MFEC