Skip links
View
Drag

Life at MFEC

MFEC เดินหน้าสร้าง Impact ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ

Impact เป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่จะพาองค์กรสู่ความสำเร็จ ในยุคโลกาภิวัตน์ที่กระแสเทคโนโลยีเปลี่ยนไปตลอดเวลา การทำงานรูปแบบดั้งเดิมหรือการทำทุกงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสมบูรณ์ อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดอีกต่อไป เมื่อความสำคัญของงานแปรเปลี่ยนไปตามเวลา การเลือกทำเฉพาะงานที่สร้าง Impact คืออีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่จะทำให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในปัจจุบัน MFEC เดินหน้าด้วยแนวคิดการทำงานเพื่อสร้าง More Impact ทำให้องค์กรมีการเติบโตอย่างมั่นคงท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคม อย่างไรก็ตาม MFEC ไม่หยุดที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ซีอีโอของบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เผยว่า ความท้าทายล่าสุดของ MFEC คือการผลักดันให้บุคลากรภายในองค์กรได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นมา MFEC ได้สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปัจจุบัน บริษัทมีโครงสร้างที่แข็งแรง ประกอบไปด้วยความน่าเชื่อถือจากผลงานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความมั่นคงทางการเงิน และบุคลากรที่มีคุณภาพ แต่ถึงอย่างนั้น คุณเล้งกลับรู้สึกว่าจุดแข็งเหล่านี้ยังไม่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยเหตุนี้ คุณเล้งจึงมี Passion ที่จะทำให้ศักยภาพของ MFEC เป็นที่ประจักษ์ในวงกว้าง MFEC จะต้องเป็นบริษัทที่สามารถใช้ทรัพยากรอันทรงคุณค่าที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแรงในเชิงองค์กร ประสบการณ์ การรู้ความต้องการของลูกค้า และความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี ในการสร้าง More Impact ต่อสังคม โดยมุ่งที่จะผลักดันศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของพนักงาน เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยี และยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน

MFEC

MFEC

More Impact กุญแจสำคัญในการรับมือความเปลี่ยนแปลงสู่โลกอนาคต

เวลาที่ไม่หยุดเดินกับสังคมที่เกิดการ Disruption ตลอดเวลานำมาซึ่งการตั้งคำถามว่า MFEC ในฐานะบริษัทไอทีที่ดำเนินกิจการมายาวนานถึง 25 ปีจะมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้อย่างไร ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา กุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจคือการผลักดันองค์กรให้มุ่งสู่ More Impact ‘คุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร’ ซีอีโอของบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เปิดเผยถึงกลยุทธ์ที่จะทำให้ MFEC เติบโตอย่างยั่งยืน More Impact จะทำให้เกิดการทำงานเพื่อ ‘ความสำเร็จ’ ไม่ใช่ทำงานแค่ให้ ‘เสร็จ’ เพราะความสำคัญของงานนั้นไม่ยั่งยืน การทำงานโดยยึดหลัก More Impact จึงเป็นสิ่งสำคัญ การตั้งคำถามถึงความสำคัญของงานว่า งานที่ทำอยู่ในปัจจุบันมี impact ไหม สามารถสร้างประโยชน์ได้หรือไม่ เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวตามกระแสโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ การทำงานโดยมุ่งไปที่การสร้าง Impact จะทำให้เกิดการทำงานที่สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพและผลิตภาพ การทำงานเพื่อให้เกิดความสำเร็จจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยการพิจารณาถึง Impact ของงานเป็นปัจจัยสำคัญในการวัดผลเพื่อทำให้เกิดการต่อยอดหรือปรับปรุงธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า ต้องรู้จักจุดที่ยืนอยู่ การจะสร้างธุรกิจที่สร้าง Impact ได้ต้องเริ่มจากการเข้าใจธุรกิจ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ และเข้าใจว่าเทรนด์ธุรกิจจะไปในทิศทางไหน หากมีความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ ก็จะสามารถระบุถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อลูกค้าได้และนำข้อมูลมาใช้ในการปรับธุรกิจให้ส่งเสริมธุรกิจของลูกค้า แทนที่จะสร้างภาระในต้นทุนที่สูง ด้วยเหตุนี้ บุคลากรที่จะสามารถพาองค์กรไปสู่ More Impact ได้จะต้องเป็นคนที่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลาและเข้าใจวัตถุประสงค์ของการทำงาน คุณสมบัติดังกล่าวจะทำให้สามารถตามทันความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและเข้าใจธุรกิจของลูกค้ามากขึ้น ทำให้สามารถระบุปัญหาของลูกค้า เพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถหา S-curve ใหม่ได้ การเติบโตของ MFEC ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการปรับตัวตามกระแสธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดยองค์กรมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งองค์กรและธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้ ก้าวต่อไปของ MFEC เพื่อมุ่งสู่ More Impact “ถ้าพรุ่งนี้บริษัท MFEC ปิดไป มันควรจะมีความสะเทือนต่อลูกค้า ต่อโครงสร้างไอทีของประเทศนี้” นี่คือเป้าหมายสูงสุดที่คุณเล้งตั้งไว้สำหรับอนาคตของ MFEC เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ บุคลากรในองค์กรจำเป็นจะต้องเค้นเอาความสามารถทางการแข่งขันของตนเองออกมา ความสามารถในการแข่งขันในที่นี้ หมายถึง การรวมประสานระหว่าง การรู้ความต้องการของลูกค้า การรู้ปัญหาของลูกค้า การรู้เทคโนโลยี และการมีประสบการณ์ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่สร้าง Impact ต่อลูกค้า สามารถเพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจของลูกค้าได้สูงสุดซึ่งตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ที่ต้องการของที่ราคาถูกลงและสามารถส่งเสริมสภาพการแข่งขันเชิงธุรกิจมากขึ้น

MFEC

MFEC

MFEC จะทำให้เราได้เจอตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นตลอดเวลา

“ขอเมาท์ว่ามันเป็นช่วงสงครามในชีวิตละกัน คือช่วงนั้นไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วตัวเองชอบอะไรกันแน่ พอเข้าไปเรียนรัฐศาสตร์จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ชอบขนาดนั้น จนถึงจุดที่มันจบแล้วอะ เคว้งมากๆ ตอนนั้นว่างอยู่ประมาณปีหนึ่งได้มั้ง” คุณยิ้ม (พรหมวดี อยู่ในธรรม) Associate Communication จากทีม Corporate Communication and Branding เล่าเรื่องราวก่อนมาอยู่ที่ MFEC “เราเลยเริ่มลองหาว่าเพื่อน ๆ เป็นอะไรกันบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็น HR กัน ก็เลยไปไล่สัมภาษณ์ตามที่ต่าง ๆ เพราะว่าตอนนั้นเอาแค่แบบ ฉันมีงานทำ แล้วฉันมีเงิน แล้วสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจมาสมัคร MFEC ก็คือ เว็บไซต์ ฮ่าๆๆ คือแค่รู้สึกว่าเขามีเว็บไซต์ก็น่าเชื่อถือและ แล้วก็เดินทางสะดวก สุดท้ายก็เข้ามาเป็น Receptionist แบบงง ๆ” หลังจากนั้นคุณยิ้มก็ได้ปรับมาเป็น HR Admin (Human Resources Administrator) และเริ่มเข้ามาดูแลเรื่องกิจกรรมภายในมากขึ้น “ทีนี้ก็ได้เริ่มช่วยเขาคิดแคมเปญ เพราะว่า PE (People Excellence ทีม HR ของ MFEC) ต้องจัดกิจกรรมทุก ๆ เทศกาล พี่ก็จะเริ่มเข้าไปช่วยเขาไม่ว่าจะเป็นสงกรานต์ วันนู้นวันนี่เต็มไปหมด ตอนนั้นก็คือเรา Enjoy แล้วก็รู้สึกว่าทำได้นี่นา คือก็เคยคิดว่าตัวเองทำไม่ได้เหมือนกัน” จนไปถึงจุดหนึ่งที่องค์กรมีการ Transform การสื่อสารก็ถูกนำมาพูดถึงมากยิ่งขึ้น และปรับเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ จนมีทีมแยกออกมาจาก PE และเปลี่ยนชื่อเป็น Corporate Communication and Branding “โชคดีมากที่มีคนเห็นศักยภาพในตัวเราอะ คือพี่อาร์ม (อาร์ม ศิวะดิตถ์ Chief Transformation Officer) เขาเก่งในการมองคน ช่วงที่พี่เขาให้ทำ Effective Meeting ตอนนั้นยังงงอยู่เลยว่าจะทำอะไรได้ พี่อาร์มเขาบอกเนี่ยเราทำ Creative ได้เว้ย จากคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ ก็เริ่มเห็นพัฒนาการของตัวเอง พูดรู้เรื่องมากขึ้นเพราะได้รับบทเป็นพิธีกร” แล้วในมุมการสื่อสารองค์กร เกิดอะไรขึ้นบ้าง “เทียบกับเมื่อก่อนที่ต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้ทั้งหัวหน้าทั้ง CEO เองก็ประชุมกันบ่อย อยากสื่อสารกับพนักงานให้มากขึ้น แล้วที่สำคัญคือตอนนี้การสื่อสารมันดีขึ้น บรรยากาศในองค์กรก็คือดีขึ้นมาก อยากทำให้มันสตรองมากขึ้นไปกว่านี้อีก” ผ่านมา 5 ปีกับการพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับพัฒนา MFEC อะไรที่ทำให้คุณยิ้มอยู่ที่นี่ได้นานขนาดนี้ “พี่มีอีกจุดหนึ่งที่ชอบทำก็คือการแสดง ร้องเพลงอะไรแบบนี้คือความพี่มาก ๆ แล้วทุกคนในทีมซัพพอร์ตในความฝันของเรา ไม่ว่าจะไปแคสงาน แสดงละครเวที ต้องบอกว่าหน้าที่ที่เราทำคือก็ทำเต็มที่ เพราะงั้นทุกคนเลยเชื่อใจเราว่าเราสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง” “สำหรับคนที่อยากมา บอกเลยว่าได้ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่แน่นอน เพราะ MFEC จะทำให้เราได้เจอตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นตลอดเวลา หลังจากที่ได้โอกาสจากที่นี่ก็คิดเลยว่าการให้โอกาสคือสิ่งที่ดีอะ และอยากให้โอกาสคนอื่นต่อไปด้วย เพราะงั้นอย่าลังเลที่จะมาค่ะ มา MFEC เท่านั้น! ฮ่าๆๆๆ”

MFEC

MFEC

มาอยู่ทีมนี้ที่ MFEC มันเหมือนเราอยู่ชมรมอะไรสักชมรมหนึ่งในมหาลัย

“มาอยู่ทีมนี้ที่ MFEC มันเหมือนเราอยู่ชมรมอะไรสักชมรมหนึ่งในมหาลัย ที่แบบว่าสนใจอะไรเหมือน ๆ กันเวลาไม่เข้าใจอะไรก็ ‘เฮ้ยพี่ ทำยังไงดีอะอันนี้ผมไปดูมาแล้วผมทำไม่ได้’ แบบนี้เลย” คุณนนท์ (พงศธร ทังสฤดี) Network Engineer ประจำทีม Networking and Cisco Customer Experience เล่าให้เราฟัง “ตอนแรกได้ฝึกงานที่นี่ก่อน ถ้าเป็นมหาลัยผมเขาจะเรียกว่าสหกิจ ก็จะอยู่ 4 เดือน 1 เทอมพอดี ตอนฝึกงานที่นี่ก็รู้สึกว่า เออ มันสนุกดี รู้สึกว่าเราได้ลองเล่นของจริง เราได้ไปหาลูกค้า เราได้เทส ได้ทดลองเล่นทุกอย่างเลยที่เราอยากลอง นอกจากเรื่องนี้แล้วเนี่ย พี่ ๆ ในแผนกเขาก็ใจดี และเหมือนพยายามให้ความรู้เราตลอดไม่มีกั๊ก รวม ๆ กันแล้วมันทำให้รู้สึกว่าเราสบายใจในการทำงาน เราเลยรู้สึกว่าที่นี่อาจจะเป็นที่ของเรา นี่ก็ทำมาได้ปีหนึ่งแล้วครับ” “จริง ๆ ในทีม Network ผมอยู่ในแผนก Collaboration ครับ เกี่ยวกับ Voice เช่น พวกโปรแกรมประชุมออนไลน์ต่าง ๆ หรือ IP Phone และ Contact Center อย่างงานตัวแรกเลยก็คือ Cisco Webex ถ้าเคยเห็นผ่านๆ ก็จะมีวิดีโอสอนใช้ สุดท้ายพอได้มาทำงานเป็นพนักงานแล้ว ก็ได้เข้ามาอยู่ในส่วนของทีมนี้ครับผม” ซึ่งคุณนนท์ก็ยังได้มีการไปช่วยซัพพอร์ตให้มหาลัยต่าง ๆ เวลาจัดกิจกรรมผ่านโปรแกรมเหล่านี้จนได้รับคำชื่นชมกลับมาอีกด้วย เนื่องจาก MFEC เป็นที่ทำงานที่แรก และคุณนนท์เพิ่งอยู่มาได้ประมาณ 1 ปี แสดงว่าน่ายังจำช่วงที่เรียนได้แม่นยำว่าต่างกับการทำงานอย่างไร “ต่างกันมากเลย ฮ่าๆๆ คือตอนเรียนเราจะได้เรียนแต่ทฤษฎีที่เป็นเนื้อหาใช่ไหม แต่ว่าบางอย่างมันจะไม่เห็นภาพ เช่น พวกคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้ในอุปกรณ์ Network พอมาอยู่ที่นี่มันเห็นกระบวนการชัดเจนเลยว่าถ้าเราใส่คำสั่งอะไรเข้าไป สิ่งที่มันจะตามมาคืออะไร สิ่งที่ควรระวังคืออะไร มันได้เห็นภาพ ได้เห็นเงื่อนไขจริง ๆ” “ตอนที่เปลี่ยนมาเป็นพนักงานประจำ จริง ๆ ก็มีสัมภาษณ์อีกครั้งนะครับ เพราะ MFEC ก็จะมีมาตรฐานของเขา การฝึกงานมันแค่หมายความว่า พี่ ๆ เขาได้รู้แล้วว่าการทำงานของคน ๆ นี้เป็นยังไง ก็จะต้องประเมินต่อว่าเหมาะกับทีมไหม คำถามตอนสัมภาษณ์ ก็เป็นพวกความรู้ในเนื้อหาพื้นฐานเกี่ยวกับ Network ซะส่วนใหญ่ แต่ว่าคำถามหลัก ๆ ที่อยากจะให้น้อง ๆ หรือว่าใครก็ตามที่อยากจะเข้าเตรียมตัวมาก็คือ บริการของ Cisco ที่บริษัท MFEC ทำเนี่ย มีอะไรบ้าง ถ้าสมมติผมไม่ได้ทำฝึกงานมานะ ก็จะไม่มีทางรู้อะไรแบบนี้ครับ ใครที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ อยากให้ทำการบ้านมานะเพราะว่าอันนี้เขาถามแน่ๆ ฮ่าๆๆ” “แล้วก็จะมีคำถามแบบลักษณะนิสัยส่วนตัวมากกว่า มีคำถามเชิงจิตวิทยานิดหน่อย เพื่อที่จะเข้าถึงตัวตนของเราอะไรแบบนี้เนอะ นอกนั้นก็จะมีแบบทดสอบของ Network ด้วยหนึ่งอัน แล้วก็จะมีแบบทดสอบของจิตวิทยาหนึ่งอันที่เราต้องทำก่อนที่จะเข้ามา” “แต่สุดท้ายก็อยากบอกเลยว่าพี่ ๆ ทุกคนใจดีมาก ๆ เลย ไม่ใช่แค่ Network นะ แต่เป็นทุกคนจริง ๆ คุยได้ คุยง่ายหมดครับ ใครที่สนใจเข้ามาก็ยินดีต้อนรับนะครับ”

MFEC

MFEC

MORE with BU

วันนี้คุณเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง?  ยังจำกันได้ไหมเมื่อต้นปี 2021 >> https://bit.ly/3CS6KqG MFEC ให้สัญญาจะยืนหยัดต่อความท้าทาย ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางสภาวะวิกฤตใด ด้วยศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของทุกคนในองค์กร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมที่จะขับเคลื่อนชีวิต Digital ของทุกคน  เราจึงเริ่มปี 2021 มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “WE MOVE FOR MORE IMPACT” ที่เป็นแนวทางในการดำเนินงานของพนักงานในองค์กรให้ตอบโจทย์กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ไปติดตามบทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร และหัวหน้าของแต่ละแผนกกับแนวคิดในการขับเคลื่อนองค์กรครั้งสำคัญพร้อมๆ กัน

admin mfec

admin mfec

Feedback บนความเชื่อใจ

หลังจากที่ MFEC ได้ประกาศให้พนักงาน Work from Home 100% เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กลับมาหนักขึ้นอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ชาว MFEC ถึงกับปลดล็อกสกิน ‘บ้าน(ทราย)ทอง’ กันยกใหญ่⠀⠀⠀⠀⠀⠀ปัจจุบันนี้ MFEC ยังคงมีนโยบายให้พนักงาน Work from Home อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และขอความร่วมมือพนักงานให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันและเฝ้าระวังของบริษัทอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้พนักงานทุกคนอัปเดตสุขภาพประจำวันผ่านแอปพลิเคชัน MPY เพื่อติดตามสถานะสุขภาพรายบุคคล โดยมีทีม BCP ที่คอยดูแล และประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับบุคคลทั้งภายในและนอกองค์กร⠀⠀⠀⠀⠀⠀ที่ผ่านมา MFEC ยังคงให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ส่งมอบบริการตามความต้องการเท่านั้น แต่เราแก้ไขทุกปัญหาอย่างคนไอที โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ตอบโจทย์ เพื่อส่งมอบ Solution ที่เกินกว่าความคาดหวังของลูกค้าเสมอ เราพร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดในยามวิกฤต และอยู่เคียงข้างไม่ว่าสถานการณ์ใด ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ยังไว้วางใจให้ MFEC ดูแลเสมอมา 

admin mfec

admin mfec

M Ground

แม้ในสภาวะวิกฤต MFEC ไม่เคยหยุดพัฒนา พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิด และให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ล่าสุด! เปิดแคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ “M Ground” ที่ถูกจัดขึ้นเฉพาะภายในองค์กร เพื่อเป็นพื้นที่ในการรวบรวมกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้นำเสนอไอเดียสุดสร้างสรรค์ จากการคิดวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ แบบคนไอที ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ สู่การส่งมอบ Solution ที่เกินกว่าความคาดหวังของลูกค้า⠀⠀เพราะพนักงานทุกคนของ MFEC ต่างก็มี DNA เดียวกันด้วยคำว่า “Always Exceed Expectations” ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยตรงจาก คุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร (CEO, MFEC) ทำให้ทุกคนมองเห็นเป้าหมาย และพร้อมสร้างคุณค่าให้กับทุกการทำงานในรูปแบบเดียวกันเสมอมา “M Ground” จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งเวทีที่พร้อมสนับสนุนให้พนักงานทุกคนมีสิทธิ์ในการแสดงศักยภาพของตนเองออกมาได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งกิจกรรมแรกของ “M Ground” คืออะไร? และจะสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีได้มากขนาดไหน? โปรดติดตามได้เร็วๆ นี้

admin mfec

admin mfec

User Manual of Me

จากคำแนะนำในหนังสือ ‘Brave New Work’ ของ Aaron Dignan สู่การนำ User Manual of Me มาปรับใช้กับการทำงานของแต่ละทีมในบริษัท MFEC ⠀The Hidden Move วันนี้มีแขกรับเชิญเป็นทีม Digital Information Services (DIS) ที่จะมาเผยท่าลับของตัวเองกับแบบฟอร์มที่มีชื่อว่า User Manual of Me ซึ่งถือเป็นคู่มือส่วนตัวของพนักงาน MFEC แต่ละคนที่เขียนถึงตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะนำไปให้คนในทีมคนอื่นๆอ่าน เพื่อที่การทำงานเป็นทีมจะได้สามารถเป็นไปได้อย่างเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามาในทีม ก้าวแรกที่รู้จักกันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อมี User Manual of Me มาให้อ่านก่อน คนอื่นๆในทีมก็สามารถเข้าใจคร่าวๆได้ ว่าจะเข้าถึงพนักงานคนนี้ได้อย่างไร การมอบหมายงานแบบไหนที่เหมาะกับเขา ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการปรับตัวทั้งของคนในทีมและคนที่มาใหม่ได้อย่างมาก หรือใครที่อยากเอา Template สวยๆของ User Manual of Me จาก MFEC ไปใช้ ก็สามารถดาวน์โหลดตามลิงก์ท้ายโพสต์ด้านล่าง ดาวน์โหลด Template ที่นี่: https://bit.ly/3uqDtPR

admin mfec

admin mfec

Work From Home ยังไงให้รอด

ใกล้เทศกาลทีไร ต้องมีเรื่องมาให้อดเที่ยวทุกที แถมยังต้องนั่งทำงานที่บ้านแบบเลี่ยงไม่ได้อีกต่างหาก⠀⠀หลังจากได้เห็นประกาศจากหลายๆบริษัท รวมทั้ง MFEC ว่า “ให้พนักงาน Work From Home แบบ 100%” หลายคนคงอดถอนหายใจดังๆกันไม่ได้ ก็ทำงานที่บ้านมันทั้งทำให้เราเฉื่อยชา ไม่มีพลัง แถมเผลอๆงานยังเสร็จช้ากว่าปกติ จะตามใครก็ไม่ได้ ประสิทธิภาพการทำงานลดลงขนาดนี้ ใครล่ะจะชอบ?⠀⠀ได้ยินปัญหาแบบนี้แล้ว วันนี้ The Hidden Move by MFEC เลยจะมาเผยเคล็ดลับการ WFH ยังไงให้มีประสิทธิภาพแบบคน MFEC กัน ตามไปดูรูปได้เลย! การประชุมแบบเปิดกล้องทำให้ทั้งเราและคนอื่นๆในทีมตอบเร็วขึ้น และยังได้เห็นสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการแปลสารที่ผิดพลาดได้ หลายๆครั้งการทำงานที่บ้านอาจทำให้การสื่อสารช้ากว่าปกติ ส่งข้อความไปหาใครก็ไม่มีคนตอบ โทรไปก็ไม่รับ เพราะฉะนั้นการตั้งกฎการในทำงานขึ้นมาจึงช่วยตรงส่วนนี้ได้มาก ตัวอย่างกฏที่ทีม Digital Platform and Management (DPM) จาก MFEC ตั้งขึ้นมาก็คือการเก็บเงินเมื่อพนักงานไม่ยอมอ่านแชทที่มีคนแท็กชื่อตัวเองภายในเวลาที่กำหนด หรือตอนที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ในเวลางาน พอได้ทำงานที่บ้าน ทำให้บางครั้งเวลาทำงานกับเวลาพักเกิดการซ้อนทับกัน หรือทำให้บางคนทำงานยาวหลายชั่วโมงโดยไม่พักเลยและสุดท้ายก็ burnout แบบไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น การตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อให้รู้สึกว่าต้องพักแล้ว เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้สมองและร่างกายไม่เสียสมดุล ถึงแม้จะได้นั่งทำงานที่บ้าน แต่นาฬิกาเวลาทำงานของร่างกายเรายังคงปกติ เพราะฉะนั้นการที่เอาเวลาทำงานไปพัก เอาเวลาพักมาทำงาน อาจจะไม่ได้ทำให้รู้สึกสบายมากขึ้น แต่จะทำให้กดดัน และยังส่งผลเสียเมื่อเวลาคนอื่นมาตามงาน แต่เราไม่พร้อมจะสื่อสารอีกด้วย การทำงานที่บ้านบังคับให้เราต้องสื่อสารกันมากขึ้น ทั้งอัปเดตงานค้าง และแพลนการทำงานของเราให้คนในทีมรู้ จากที่ปกติไม่ต้องมานั่งบอกว่า ในโปรเจ็กนี้ทำขั้นที่ 1 2 3 เสร็จแล้ว ก็ต้องมาประกาศให้คนอื่นรู้ และพูดมันบ่อยกว่าปกติเพื่อที่่จะเป็นการเตือนตัวเองพร้อมกับบอกให้คนในทีมรู้ว่าเราทำงานไปถึงไหน สามารถรับงานใหม่ได้หรือยังอีกด้วย

admin mfec

admin mfec

Leng’s Theory “ทฤษฎีลูกชิ้นปิ้ง”

Always Exceed Expectations สูตรลับการทำธุรกิจที่คนทำธุรกิจต้องเข้าใจถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโต พี่เล้ง (CEO) ได้ยกตัวอย่างวิธีการที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องอย่างทฤษฎีลูกชิ้นปิ้ง ให้ทุกคนลองสมมุติว่า ณ ปัจจุบันเราขายลูกชิ้นปิ้งในราคาไม้ละ 10 บาท โดยมีลูกชิ้น ต่อไม้อยู่ที่ 10 ลูก เราบอกว่าจะทำยังไง? ให้เรารวยขึ้นจากการขายลูกชิ้น ข้อก. จากราคาไม้ละ 10 บาท เราปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็น 15 บาท เราก็รวยขึ้นเพราะต้นทุนเท่าเดิมแต่ขายราคาที่สูงขึ้นข้อข. ขายหนึ่งไม้ราคา 10 บาทเหมือนเดิม แต่ลดลูกชิ้นเหลือแค่ 7 ลูก เราก็รวยขึ้นเพราะต้นทุนถูกลง แต่ขายราคาเท่าเดิมข้อค. เอาข้อก.กับข้อข.มาบวกกัน คือ เพิ่มราคาเป็น 12 บาท และลดจำนวนลูกชิ้นด้วยเหลือ 8 ลูกเราก็รวยขึ้น แต่ความเป็นจริง!!!! คือทั้งสามข้อนี้ไม่ได้ทำให้รวยขึ้นเศรษฐีต่างๆ เขารู้เคล็ดลับดีว่าวิธีที่จะทำให้รวยขึ้นมีอยู่แค่แบบเดียว คือ เราต้องเพิ่มจำนวนลูกชิ้นแล้วเพิ่มราคา จากลูกชิ้นไม้ละ 10 ลูกเราก็เพิ่มเป็น 12 ลูก และเพิ่มราคาเป็น 15 บาท นี่คือกลยุทธ์ที่แท้จริง

admin mfec

admin mfec