
EP.4 ระบบ APIGee
ระบบ APIGee เดิมอยู่บนระบบ Cloud และให้บริการในรูปแบบ Software as a Service (SaaS) ซึ่งมีการรับประกันประสิทธิภาพการคงอยู่ของระบบ และการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ตามเงื่อนไขบริการ (Service Level Agreement) คราวนี้ APIGee Hybrid จากเดิมอยู่บนระบบ Cloud มาอยู่ ณ On-premise ทำอย่างไร ที่จะรักษาคุณสมบัติเดิมทั้ง features และการรับประกันประสิทธิภาพของบริการ ให้เทียบเท่ากับการให้บริการบนระบบ Cloud การจะรักษาคุณสมบัติที่ใกล้เคียงไว้ได้ จำเป็นจะต้องมีระบบโครงสร้างพื้นฐานและรากฐานเดียวกันกับ Cloud นั่นเอง ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์จึงต้องออกแบบระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infra Platform) ให้สามารถนำมาติดตั้ง ใช้งานบน On-premise ได้ อย่างสะดวกต่อคนสาย IT อย่างเรามากที่สุด เพราะสร้างเสร็จ ต้องดูแลระบบดังกล่าวต่อ (Operation routine) ที่สุด Infra platform ที่ว่า ก็ออกมาในชื่อ “Anthos” (แอน-ทอส) โดยเป็นการต่อยอด จาก “Kubernetes” ที่พวกเราคุ้นเคย เรียกว่าเป็นกลุ่ม Cluster management ที่ต่อยอดและออกแบบมาเพื่อให้สามารถติดตั้ง ได้ทุกที่ทั้ง On-premise, On-Cloud ต่าง ๆ ครอบคลุม brands หลัก ๆ และจะค่อย ๆ ครอบคลุมในทุก brands ต่อไปครับ #รูปที่ผมเขียนนี้ เพื่อเป็นตัวเปรียบเปรยการทำหน้าที่ของ APIGee Hybrid กับหน้าที่ของ Anthos ครับAPIGee ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพ ตามที่ได้เขียนไว้ใน EP ก่อนหน้าครับ และที่เห็นเป็น สามเหลี่ยม สี ๆ นั้น คือ “Anthos” ครับเพื่อน ๆ ทำหน้าที่จัดการทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นโครงสร้างบ้าน ที่คอยจัดการน้ำหนักทีเพิ่มขึ้นของตัวบ้าน การขยายตัว การคงสภาวะของตัวบ้าน ให้ผู้อาศัยใช้งานได้อย่างปรกติที่สุด Anthos มีความสามารถที่ต่อยอดจาก Cluster management เพิ่มความสามารถในการสะดวกสร้าง เหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรส #Anthos ที่หากเข้าใจการเติมน้ำร้อน รู้อุณหภูมิ และเวลาที่เหมาะสม ก็จะได้ Anthos พร้อมรับประทาน และวัตถุสี ๆ ที่อยู่ล้อมรอบ นั้น ก็เป็นเสมือน เครื่องเคียงต่าง ๆ ที่ หากต้องการใช้ ก็สามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้ เช่น การจัดการแบบรวมศูนย์ การติดตั้งและสื่อสาร ระหว่าง Anthos ณ ที่ต่างๆ (on-premise, on-cloud) ตัวควบคุมการให้บริการ (Anthos Service Mesh) จากหัวเรื่องของ EP นี้ที่ทำให้ APIGee Hybrid ดูคงสภาวะให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มลด ประสิทธิภาพ ในการให้บริการ ได้ตามความต้องการ (Scalability) เหล่านี้ เพราะตัวรากฐานมีความสามารถ