4 เหตุผลว่าทำไม MFEC มั่นใจเรื่องการนำ AI มาใช้ในองค์กร ?
MFECได้ตั้งเป้าหมายว่าจะโฟกัสกับการลงทุนใน AI อย่างเต็มที่ในปีนี้ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านบริการไอทีในอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเกิดขึ้น
MFECได้ตั้งเป้าหมายว่าจะโฟกัสกับการลงทุนใน AI อย่างเต็มที่ในปีนี้ เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านบริการไอทีในอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเกิดขึ้น
NVIDIA เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะผู้ครองตลาดการ์ดจอที่ไม่เพียงแต่นำมาใช้เพื่อเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังเเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน AI
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการเปิดตัวสินค้าหลากหลายอย่าง แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ Microsoft ได้อัปเดตการเพิ่มคุณสมบัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้กับ Windows11 โดยการเปิดตัวผู้ช่วย AI อย่าง “Windows Copilot” หนึ่งในปัญญาประดิษฐ์ที่ยกระดับ AI ไปสู่อีกขั้น
ในงานนี้เอง Google ได้มีการยกระดับการพัฒนา AI ให้มีความสามารถและฟีเจอร์เทียบเท่า OpenAI เพื่อมาสู้กับ ChatGPT โดยการเปิดตัว AI Chatbot ในชื่อ “Google Bard”
MFEC ได้เล็งเห็นโอกาสและเข้าไปศึกษาอย่างทันทีจนได้นำ AI มาปรับใช้ในองค์กรในหลายภาคส่วน ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการนำ AI มาปรับใช้กับ MFEC และบริษัทในเครือ
หลายบริษัทเริ่มคิดหาวิธีที่จะนำ AI มาปรับใช้กับธุรกิจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และต่อไปนี้คือ 4 ไอเดียที่บริษัทในไทยจะสามารถนำ AI มาปรับใช้ได้
ตามที่คุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร, CEO ของ MFEC ก็ได้กล่าวไปในวัน Opportunity Day ว่า AI เป็นหนึ่งในการลงทุนที่ทางบริษัทโฟกัสอย่างมากในปีนี้
สิ่งที่น่าสนใจคือการมาของ AI นี้ จะทำให้ภาคธุรกิจที่การแข่งขันสูงอยู่แล้ว ยิ่งดุเดือดเข้าไปอีก และเกิดการทิ้งห่างทางการเติบโตในอุตสาหกรรมเดียวกันมากขึ้น
ผลกระทบที่ AI กำลังส่งมาที่ภาคธุรกิจเป็นอะไรที่ไม่ควรมองข้าม แม้แต่ในประเทศไทย ด้วยการพัฒนาที่ว่องไวในระดับที่มีแนวทางการใช้ใหม่ออกมาแทบจะทุกเดือน..
หนึ่งใน portfolio ของ Checkpoint ที่น่าสนใจ และเป็นภาพที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเคยรู้จักในช่วงแรกที่เราได้เห็นกันคือ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ชื่อว่า CloudGua