Skip links
View
Drag

AI-Lab ปฏิวัติองค์กรสู่อนาคต 

ทำไมถึงต้องพัฒนา AI ของตนเองเพื่อใช้งานในองค์กร 

ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์ (AI) รูปแแบบเดียวกับ ChatGPT Gemini หรือ Claude กำลังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรในทุกภาคอุตสาหกรรม สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ  อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้งานในองค์กรต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เช่น รูปแบบการใช้งานเฉพาะด้านขององค์กร ค่าใช้จ่าย ความปลอดภัยของข้อมูล และความเหมาะสมของเทคโนโลยี ซึ่งทำให้บางองค์กรเลือกพัฒนา AI ขึ้นมาใช้งานเอง เพื่อให้ตรงกับความต้องการ การใช้งานการพัฒนา AI ของตัวเองมีหลายระดับและใช้ต้นทุนสูง-ต่ำไม่เท่ากันขึ้นกับความต้องการ เช่น บางองค์กรอาจจะมีเงื่อนไขความปลอดภัยข้อมูลที่ไม่สามารถนำข้อมูลออกจากพื้นที่ที่กำหนด บางแห่งต้องการรูปแบบการใช้งานเฉพาะด้านที่ต้องการเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์เข้ากับระบบภายใน หรือบางองค์กรอาจจะมีปริมาณการใช้งานสูงมากจนการจ่ายค่าใช้งานตามจริงในรูปแบบคลาวด์นั้นมีราคาแพง หากต้องการพัฒนา AI ของตัวเองสามารถเริ่มต้นจากเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น การใช้งานในด้านใดด้านหนึ่งก่อน จาก Use case เฉพาะด้าน เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์เริ่มใช้งาน AI เป็นผู้ช่วยในการพัฒนา หรือระบบช่วยเหลือทำสรุปรายงานข้อมูลธุรกิจที่มีอยู่แล้วในองค์กร 

MFEC กับการพัฒนา AI ในองค์กร 

บริษัท MFEC กำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในองค์กรอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายที่จะนำ AI มาใช้งานในกระบวนการทำงานภายในองค์กรอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการพัฒนาและทดลองใช้งาน AI ในหลายรูปแบบ เพื่อให้พนักงานและองค์กรมีความคุ้นเคยและสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ 

AI-Lab ซึ่งเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและวิจัยด้าน AI ของ MFEC มีบทบาทสำคัญในการสำรวจและติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI โดยทีมผู้เชี่ยวชาญกำลังพัฒนาโซลูชัน AI ที่เหมาะสมกับองค์กร และสร้างนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต AI-Lab ยังมุ่งเน้นการออกแบบบริการที่ครอบคลุม ตั้งแต่การประเมินความพร้อมขององค์กร การวางแผนกลยุทธ์ ไปจนถึงการปรับแต่งโซลูชัน AI เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมในแต่ละอุตสาหกรรม เมื่อองค์กรมีความพร้อมมากขึ้น MFEC มีแผนที่จะขยายการให้บริการด้าน AI ไปยังบริษัทและองค์กรอื่น ๆ โดยมุ่งหวังที่จะช่วยธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เตรียมความพร้อมสำหรับการนำ AI มาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ  

AI Lab: นวัตกรรมเพื่อองค์กร 

บริษัท MFEC มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในองค์กรอย่างจริงจัง โดยปัจจุบัน AI-Lab ได้พัฒนาและทดลองโซลูชัน AI หลายรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดภาระงานที่พนักงานต้องทำซ้ำไปมา เปิดทางให้พนักงานได้ทำงานตัดสินใจที่สำคัญ เป้าหมายของบริษัทคือการนำ AI มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบงานในอนาคตอันใกล้ พร้อมทั้งพัฒนาความสามารถของระบบให้รองรับการให้บริการแก่องค์กรอื่น ๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยโซลูชันในปัจจุบัน ได้แก่ 

1. MFEC Brain 

MFEC Brain เป็น Agentic AI software สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร Documents หรือ API จากระบบอื่น ๆ เพื่อนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมา Empowered โดย AI เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการค้นหา, ตอบคำถาม และวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกเชื่อมต่อ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และคำตอบตามที่ผู้ใช้งานต้องการ 

  • การสร้าง FAQ ภายในองค์กร เช่น ตอบคำถามเกี่ยวกับจำนวนวันลาคงเหลือ สิทธิประโยชน์ของพนักงาน หรือวิธีการยื่นเอกสาร 
  • การบริหารจัดการข้อมูลที่ปลอดภัยและยืดหยุ่น ด้วยระบบจัดการผู้ใช้งานที่สามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลได้ตามแผนก เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว 
  • ความหลากหลายในการเลือกใช้งาน LLM รองรับทั้ง OpenAI, Azure, Gemini, etc. ทำให้องค์กรสามารถเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้งาน Open Source LLMs และ Open-Source OCR เพื่อประมวลผลข้อมูลภายในโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรโดยตรง ทำให้เพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของข้อมูลรั่วไหลไประบบภายนอก 

โดย Products ของ  MFEC Brain ในปัจจุบันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภายในองค์กร ได้แก่  

  1. Meeting Room Assistant ระบบช่วยจัดการจองห้องประชุมอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบความพร้อมหรือจองห้องประชุม เพื่อลดความยุ่งยากและระยะเวลาในการดำเนินการจอง 
  1. Chatbot ไกด์สำหรับพนักงานใหม่ ผู้ช่วยที่ออกแบบมาเพื่อช่วยพนักงานใหม่ปรับตัวเข้ากับองค์กรได้รวดเร็วขึ้น โดยให้ข้อมูลที่สำคัญ เช่น กระบวนการทำงาน ขั้นตอนการยื่นเอกสาร หรือข้อมูลสถานที่สำคัญในองค์กร 

2. DocAI: ผู้ช่วยจัดการเอกสารอัจฉริยะ  

สำหรับองค์กรที่มีปริมาณเอกสารจำนวนมาก DocAI สามารถช่วยดึงข้อมูลจากเอกสารต่าง ๆ เช่น บิลค่าไฟ ใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารสมัครงาน มาประมวลผลและจัดเก็บในรูปแบบที่ต้องการ ด้วยการผสานเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition), LLM, และ Machine Learning สามารถช่วยให้องค์กรประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในกระบวนการจัดการเอกสาร และช่วยแก้ปัญหาการนำเข้าข้อมูลจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การทำงานมีความราบรื่นและแม่นยำ 

3. AI Chatbot Assistant ผู้ช่วยค้นหาข้อมูลการทำงานในองค์กร 

AI Chatbot Assistant ของบริษัท MFEC พนักงานมีตัวช่วยที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เปิดทางให้พนักงานสามารถขอความช่วยเหลือจาก LLM ยอดนิยมได้หลากหลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในกระบวนการทำงาน ช่วยลดเวลาในงานประจำวัน และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม นอกจากนี้ ลดค่าใช้จ่ายแทนการสมัครบริการ LLM ให้พนักงานรายบุคคล และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลภายในองค์กร รวมถึงสามารถจัดเก็บข้อมูลการใช้งานทั้งแบบข้อมูลเต็ม และการเก็บข้อมูลเชิงสถิติว่าพนักงานพูดคุยขอความช่วยเหลือเรื่องใดเป็นพิเศษ หรือชอบใช้งานรูปแบบใด  

สรุป 

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร การพัฒนา AI ที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะทางขององค์กรกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนระยะยาว และเสริมความปลอดภัยของข้อมูลภายใน ดังนั้น MFEC จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI อย่างจริงจังผ่าน AI-Lab ซึ่งทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาโซลูชัน AI ที่ทันสมัย เช่น MFEC Brain, DocAI, MFEC Chatbot ทำให้เป้าหมายระยะยาวของ MFEC คือการพัฒนาความพร้อมในการใช้งาน AI ภายในองค์กรอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมทั้งขยายบริการด้าน AI ไปยังบริษัทอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรมในอนาคตอย่างยั่งยืน 

อ้างอิง 

ลดภาระการทำงานของคุณด้วย MFEC Brain

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะมี AI ของตัวเอง

Resumatch