จากจุดเริ่มต้นของแชทบอทในยุคแรก สู่อนาคตที่ AI จะกลายเป็นผู้ช่วยและเพื่อนร่วมงานอัจฉริยะให้กับเรา ในงานสัมมนา ภายใต้หัวข้อ “Where are we now? What’s Next?” คุณวสันต์ ลิ่วลมไพศาล ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงบทบาทที่สำคัญที่ AI จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรและสังคมในอนาคต
การพัฒนา AI เริ่มต้นในปี 1966 ด้วย Eliza แชทบอทตัวแรก ๆ ของโลกที่พัฒนาโดย Joseph Weizenbaum ซึ่งออกแบบมาเพื่อจำลองการสนทนากับมนุษย์ แม้มันจะยังไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาที่มนุษย์พูดได้จริง แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกของการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรอย่างมีนัยสำคัญ จากนั้นในช่วงปี 1960-1970 ได้เกิดการพัฒนาหุ่นยนต์ Shakey ที่เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่สามารถคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยใช้เซนเซอร์วิเคราะห์สภาพแวดล้อมแล้วเลือกทางเดินได้เอง นับว่าเป็นการพัฒนาที่ทำให้ AI เริ่มแสดงศักยภาพในการทำงานอย่างอิสระและมีความคิดอย่างชัดเจน
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ AI ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเกิดขึ้นในปี 1997 เมื่อ Deep Blue ของ IBM สามารถเอาชนะแชมป์โลกหมากรุก Garry Kasparov ได้สำเร็จ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ AI ในการประมวลผลและตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ นับเป็นความก้าวหน้าที่ผลักดันให้โลกเริ่มตระหนักถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของเทคโนโลยี AI
จากนั้นโลกของ AI ได้เข้าสู่ยุคของ Machine Learning และ Deep Learning ทำให้การพัฒนา AI ไม่ต้องพึ่งพาการเขียนโปรแกรมซับซ้อนล่วงหน้าอีกต่อไป แต่สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้เองจากข้อมูลที่ได้รับ AI ในยุคนี้สามารถทำงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การจำแนกภาพ แยกแยะเสียง และเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความคล้ายคลึงกับการเรียนรู้ของมนุษย์เอง
คุณวสันต์ยังได้กล่าวถึงอนาคตของ AI ที่จะไม่เป็นเพียงเครื่องมือ แต่จะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานที่มีความฉลาดและช่วยเราสร้างสรรค์วิธีการแก้ปัญหาในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ ธุรกิจ หรือแม้แต่การจัดการในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งในองค์กรของเราเองก็ได้มีการขับเคลื่อนการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ อย่างจริงจัง ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญได้ร่วมมือกันสร้างเคสการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เห็นได้ว่าองค์กรของเราให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI ในเชิงคุณภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและสังคม ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอนวัตกรรม แต่คือการลงมือทำและแสดงถึงความเชี่ยวชาญจากบุคลากรในองค์กร