ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและการแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือด หนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรก้าวหน้านำคู่แข่งได้ก็คือ ‘กลยุทธ์’ โดยเฉพาะในระดับองค์กรขนาดใหญ่ที่การเข้าถึงทรัพยากรค่อนข้างจะทั่วถึงเหมือนกันหมด การนำทรัพยากรที่มีมาคิดค้นกลยุทธ์ที่ดี และนำไปใช้ให้เร็ว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถยกระดับความสามารถในการแข่งขันขององค์กรได้ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกนำมาช่วยเหลือในการรคิดค้นกลยุทธ์ทางธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง คือ AI ด้วยความสามารถในการประมวลผลที่มหาศาลและการนำไปปรับใช้ได้หลากหลาย ทำให้นักกลยุทธฺธุรกิจได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและตัดสินจใได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือตัวอย่างทักษะที่ AI สามารถช่วยเหลือด้านกลยุทธ์ได้
วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
หนึ่งในรากฐานสำคัญของการคิดกลยุทธ์คือการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาช่วยประกอบการตัดสินใจ ซึ่ง AI มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลในระดับที่มนุษย์ไม่มีทางทำได้ด้วยตัวเอง และจับหา Pattern, Insights, หรือสัญญาณอะไรต่าง ๆ ที่มนุษย์อาจเผลอมองข้ามไป และจะมีประโยชน์ต่อการนำไปคิดค้นกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้า ข้อมูลด้านการเงิน ขอมูลคู่แข่ง ไปจนถึงข้อมูลอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์เพื่อแบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่ม ๆ และสร้างแคมเปญที่เจาะจงไปเฉพาะที่ลูกค้ากลุ่มนั้น เพื่อสร้างความประทับใจ
คาดการณ์อนาคต
กลยุทธ์ที่สามารถป้องกันปัญหาก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่ากลยุทธ์ในการแก้ปัญหา ซึ่ง AI สามารถเข้ามามีส่วนร่วมตรงนี้ได้ ด้วยการศึกษาข้อมูลในอดีตเพื่อจับรูปแบบและคาดการณ์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตมาหลาย ๆ รูปแบบตามสถานการณ์ ให้นักกลยุทธ์นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจและวางแผนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสภาวะเศรษฐิกิจ เทรนด์ของผู้บริโภค หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
วางแผนอย่างครอบคลุมทุกสถานการณ์
เนื่องจาก AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลละคาดการณ์อนาคตได้ หนึ่งในสิ่งที่ AI ถูกนำไปใช้บ่อยคือการสร้างสถานการณ์จำลองขึ้นมาในคอมพิวเตอร์เพื่อให้นักวางแผนเห็นภาพความเป็นไปได้แต่ละแบบให้มากที่สุด และวางแผนรับมือหรือใช้โอกาสจากความเป็นไปได้เหล่านั้น การทำแบบนี้ทำให้องค์กรมีความสามารถในการแข่งขันสูงอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ว่าทางองค์กรได้มีแผนการณ์รองรับเอาไว้หมดแล้ว
นอกจากตัวอย่างนี้ ยังมีแนวทางการนำ AI ในเชิงกลยุทธ์ได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดแบบเจาะจงลูกค้า การวิเคราะห์คู่แข่งเชิงลึก การจัดการทรัพยากร และอื่น ๆ อีกมากมาย แถมด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอดอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจถ้าเกิดในอนาคตจะมีการนำ AI มาใช้ในการคิดกลยุทธ์ธุรกิจในวิธีอื่นนอกเหนือจากนี้ไปอีก
ทาง MFEC เองก็มีการนำ AI มาปรับใช้ในการทำงานอยู่เสมอ ทั้งกับองค์กรเองและองค์กรลูกค้า เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในประเทศไทยและขับเคลื่อนให้องค์กรในประเทศไทยได้ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่เสมอ
สนใจบริการต่าง ๆ ของทาง MFEC สามารถดูเพิ่มเติมและติดต่อได้ที่: https://www.mfec.co.th/solutions-and-services/