หากพูดถึงงานเปิดตัวด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกงานหนึ่งคงต้องยกให้งาน “Computex” ในประเทศไต้หวัน ที่มักจะมีการนำผลิตภัณฑ์มาเปิดตัวเพื่อวางจำหน่าย แต่ความโดดเด่นของปีนี้คือการที่ “NVIDIA” บริษัทด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้มาร่วมงานเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ เนื่องจาก NVIDIA เป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะผู้ครองตลาดการ์ดจอที่ไม่เพียงแต่นำมาใช้เพื่อเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังเเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน AI ทำให้ AI น่าจะเป็น Theme หลักของงานนี้
ช่วงหลังมานี้ NVIDIA ขึ้นชื่อในเรื่องของการผลิตฮาร์ดแวร์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งภายในงานได้มีการเปิดตัวทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากคงหนีไม่พ้นฮาร์ดแวร์ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่สาย AI อย่าง “DGX GH200” GPU ที่มีหน่วยความจำขนาดใหญ่ สามารถเชื่อมต่อระหว่าง NVLink และ NVLink Switch System ทำให้สามารถรองรับ Core จำนวนมากได้ เพราะปัญหาส่วนใหญ่ของ Generative AI เมื่อโมเดลใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จะเกิดปัญหาการโหลดพารามิเตอร์ หมายความว่าการเทรน AI นั้นถ้า Resourse ไม่พอจะทำให้ไม่สามารถเทรนได้เลย ต้องทำการปรับจูนซึ่งมีความซับซ้อนค่อนข้างสูง ดังนั้นการมาของ DGX GH200 นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวแล้วยังเพิ่มประสิทธิภาพ ในการพัฒนา AI ให้ทรงพลังมากขึ้นไปอีก
อีกสิ่งที่น่าสนใจภายในงานนี้คือ NVIDIA ได้เปิดตัวชุด AI ใหม่ที่จะนำมาใช้พัฒนาเกม เป็น AI สำหรับการฝึก NPCs หรือการพัฒนาตัวละครในเกมให้ตอบสนองได้เหมือนจริงมากขึ้น ด้วยที่ผ่านมาการทำบทพูดสำหรับตัวละครในเกมนั้นถือเป็นงานหนักสำหรับผู้เขียนในการทุ่มเวลาไปกับการเขียนบทที่มากให้แต่ละตัวละคร แต่เมื่อมีการนำ AI มาพัฒนาในส่วนนี้นอกจากจะช่วยให้ตัวละครมีความเป็นธรรมชาติทั้งบทพูดที่ไม่ตายตัว รวมไปถึงสีหน้าท่าทางแล้ว ยังสามารถแบ่งเบางานให้กับผู้ออกแบบเกม ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของวงการเกมไปสู่อีกขั้นหนึ่งที่น่าจับตามอง และยังสะท้อนให้เห็นว่า AI สามารถมาช่วยงานบางอย่างแทนมนุษย์ได้ ทำให้มีเวลาไปทำงานอย่างอื่นได้มากขึ้น
จากงานแถลงข่าวเปิดตัวเทคโนโลยีของบริษัทต่าง ๆ ในปีนี้ ทุกบริษัทต่างมุ่งให้ความสำคัญกับการนำ AI เข้ามาพัฒนา Product ของตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเอื้อประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ทำให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในยุคนี้เป็นอย่างมาก ไม่เฉพาะด้านในด้านหนึ่งเท่านั้นแต่อยู่ในทุก ๆ ด้าน และใกล้ตัวมากกว่าที่คิด แม้แต่คนทั่วไปก็ยังสามารถเข้าถึง AI ได้อย่างง่ายดายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว จนบางคนอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังใช้งานสิ่งที่เรียกว่า AI อยู่ เพราะเพียงแค่การตัดต่อรูปภาพ เช่นการลบวัตถุต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการออกจากภาพ หรือการตัดต่อเพิ่ม Effect ลงไปใน VDO ที่ทุกวันนี้ใครก็สามารถทำได้ ล้วนแต่มี AI อยู่เบื้องหลังการทำงานทั้งสิ้น
และแม้ว่า Generative AI จะเป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นและถูกพูดถึงมานานแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลังจากการปรากฏตัวของ OpenAI อย่าง ChatGPT ที่ไม่ใช่แค่ AI ปกติ แต่มีการพัฒนาให้เป็น AI ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ได้ด้วยตัวเองนั้นถือเป็นแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ของวงการไอที นับว่าเป็นการปลุกกระแสของ AI ให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ทำให้หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีก็พากันหันมาพัฒนา AI ของตนเองอย่างต่อเนื่อง
เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตของคนเรามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจ ยิ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายและไม่ควรมองข้ามถ้าอยากก้าวทันความเปลี่ยนแปลงนี้ ในฐานะองค์กรที่ดำเนินงานด้านเทคโนโลยีต้องบอกเลยว่าปี 2023 ถือเป็นปีแห่ง Generative AI ที่จะนำไปสู่โลกยุคใหม่อย่างแท้จริง
รับชมวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/1CPT8LH8vOY
แหล่งที่มาของข้อมูล :
- https://images.nvidia.com/content/APAC/assets/sea-prs/nvidia-announces-dgx-gh200-ai-supercomputer-th.pdf
- https://blogs.nvidia.com/blog/2023/05/28/computex-keynote-generative-ai/
#MFEC #TechForward #GenerativeAI #NVIDIA